กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการ 10 เดือนแรก เติบโตแข็งแกร่ง โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 496,000 บัญชี เติบโต 6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 317,000 ล้านบาท เติบโต 8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 78,000 ล้านบาท เติบโต 4% และยอดสินเชื่อคงค้าง 139,000 ล้านบาท ชี้ยอดใช้จ่ายหมวดโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, ท่องเที่ยว, ช้อปออนไลน์ เติบโตสูง
คาดภายในปี 2567 มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 600,000 บัญชี (+7%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท (+8%), ยอดสินเชื่อใหม่ 96,000 ล้านบาท (+5%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 150,000 ล้านบาท (+1%) คาดปีหน้าธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เผยปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการชำระเงินตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจต่อเนื่อง
อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า
“ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม - ตุลาคม 2567 เติบโตเป็นอย่างดี จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัทซึ่งมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้า
โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 496,000 บัญชี เติบโต 6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 317,000 ล้านบาท เติบโต 8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 78,000 ล้านบาท เติบโต 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 139,000 ล้านบาท”
หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.3% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.5% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ
สำหรับปีนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของลูกค้ายิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยความสำเร็จเด่นๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง เช่น
การรุกตลาดคนรักการท่องเที่ยวญี่ปุ่นผ่านแคมเปญ “เรื่องญี่ปุ่น ต้องกรุงศรี” ซึ่งบัตรเครดิตในกลุ่ม กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร นำเสนอสิทธิประโยชน์ทั้งกิน ช้อป เที่ยว เพื่อคนรักการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ล่าสุดได้ เปิดตัว ‘U Japan’ ฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เพิ่มความสะดวกอีกขั้น รวบรวมข้อมูลและโปรโมชันเที่ยว กิน ช้อป สุดคุ้ม ครบทุกเรื่องญี่ปุ่นในเมนูเดียว, สามารถซื้อประกันการเดินทางผ่านแอป, และเปลี่ยนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นในสกุลเงินเยนตามเงื่อนไขเป็นแบ่งชำระดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า
โดยคาดว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ญี่ปุ่นจะเติบโต 30% แตะ 3,250 ล้านบาท ภายในปี 2568, การได้รับความไว้วางใจจากบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ต่อสัญญาให้บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นพันธมิตรผู้ให้บริการบัตรเครดิตร่วม และสินเชื่อบุคคลภายใต้แบรนด์ เซ็นทรัล เดอะวัน ต่อเนื่องไปอีก 8 ปี ตั้งแต่ปี 2568 – 2575 นอกจากนี้ ยังขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในหมวดที่ลูกค้านิยมใช้จ่าย เช่น ท่องเที่ยว, ร้านอาหาร, ผ่อนชำระ เพื่อนำเสนอโปรโมชันที่หลากหลายและตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลจับจ่ายส่งท้ายปี
สำหรับมุมมองธุรกิจในช่วงปี 2568 นายอธิศ เปิดเผยว่า “สำหรับในปีหน้า คาดว่า ธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, มาตรการจากภาครัฐ เช่น การปรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยให้เครดิตเงินคืนสำหรับลูกหนี้ที่ผ่อนชำระหนี้ขั้นต่ำมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 8 เพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ปิดจบหนี้เร็วขึ้น, รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว
สำหรับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในปีหน้าเราจะยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อให้ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่มยิ่งขึ้น เช่น การปรับโฉมบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวันใหม่ ภายในปีหน้า และการปรับสิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น, และจะยังคงสานต่อการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งบริษัทในเครือกรุงศรี, พันธมิตรหลักที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต และพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำในธุรกิจต่างๆ เช่น
หมวดร้านอาหาร และแผนผ่อนชำระที่จะร่วมนำเสนอโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งยังจะมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารช่องทางบริการออนไลน์ และนวัตกรรมทางการชำระเงินใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมใช้จ่ายผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และมุ่งสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืน”