AI จะไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไป: ชี้โอกาสใหม่สำหรับผู้ค้าปลีกในปี 2025
26 Dec 2024

โดย Mark Micallef กรรมการผู้จัดการ Google Cloud Southeast Asia


 

สืบเนื่องจากแรงขับเคลื่อนในปี 2024 ที่ผู้ค้าปลีกหลายรายได้เปลี่ยนจากการทดลองใช้งาน Generative AI (Gen AI) ไปสู่การใช้งานจริงอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ในปี 2025 เราจะได้เห็นเทคโนโลยีดังกล่าวถูกผสานรวมอย่างลึกซึ้งไปในกระบวนการหลักของธุรกิจค้าปลีก และขยายการใช้งานไปสู่ระบบองค์กรอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน ผู้ค้าปลีกกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ความผันผวนของห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันด้านราคา และปัญหาการลาออกของพนักงานที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังคาดหวังประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เฉพาะบุคคลและไร้รอยต่อผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร (omnichannel) ซึ่งท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ Gen AI จะเข้ามาช่วยผู้ค้าปลีกในการรับมือกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการจะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยการวางแผนเชิงกลยุทธ์และนำไปปรับใช้ทั่วทั้งองค์กร แทนการจำกัดการใช้งานอยู่เพียงบางแผนกหรือหน่วยงานเท่านั้น

 

มาสำรวจ 4 แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการนำ Gen AI มาใช้ในอุตสาหกรรมค้าปลีกในปี 2025

1. Multimodal AI ปลดล็อคข้อมูลเชิงลึกและสร้างคุณค่าใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ผู้ค้าปลีกสามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้าง เช่น คำอธิบายสินค้า รูปภาพ รีวิวจากลูกค้า และฟีดวิดีโอภายในร้าน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลแบบไม่มีโครงสร้างเหล่านี้มักไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในระบบ AI ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยความสามารถของ Multimodal AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลหลากหลายรูปแบบร่วมกัน จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น Multimodal AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าคงคลังด้วยการวิเคราะห์รูปแบบการขายควบคู่กับการสื่อสารกับซัพพลายเออร์และความคิดเห็นจากลูกค้า นอกจากนี้ยังสามารถยกระดับกิจกรรมทางการตลาด ด้วยการวิเคราะห์ภาพสินค้าเพื่อระบุและเชื่อมโยงเทรนด์การนำเสนอภาพเข้ากับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค โดยความสามารถเหล่านี้ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถสกัดเอาข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ออกมาได้ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการสร้างกำไร

 

2. Intuitive search จะกำหนดนิยามใหม่ในการค้นพบสินค้าและการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล

ความสามารถของ Intuitive search ที่ขับเคลื่อนด้วย Gen AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ลูกค้าค้นพบสินค้าทั้งในช่องทางออนไลน์และที่หน้าร้าน โดย เซ็นทรัล รีเทล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ได้เริ่มเปิดตัวอินเทอร์เฟสการค้นหาแบบสนทนารุ่นใหม่ ซึ่งสามารถจำลองการโต้ตอบแบบธรรมชาติของมนุษย์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมรับคำแนะนำสำหรับสินค้าที่เหมาะสมเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ในปี 2025 นักช็อปออนไลน์จะสามารถอธิบายสินค้าที่ต้องการด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติ และได้รับคำแนะนำที่มีความเกี่ยวข้องและสอดคล้องกับความต้องการ สำหรับร้านค้าปลีกในรูปแบบออฟไลน์ เทคโนโลยี AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งผ่านตู้คีออสแบบอินเตอร์แอคทีฟหรือแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ที่เชื่อมโยงช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าหากันอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ พนักงานในร้านยังสามารถใช้ Intuitive search ในการค้นหาและส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งแนวทางในการเชื่อมโยงช่องทางการติดต่อสื่อสารแบบไร้รอยต่อ (omnichannel) นี้ จะสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สอดคล้องและปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคลตลอด customer journey

 

3. Conversational AI agents แรงขับเคลื่อนในการเติบโตของโลกการค้า

การซื้อขายผ่านการสนทนา (Conversational Commerce) จะก้าวหน้าไปอีกขั้นในปี 2025 ด้วย AI agents ที่เปิดโอกาสให้ผู้ค้าปลีกมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในรูปแบบใหม่และมีความหมายมากยิ่งขึ้น โดย AI agents เหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนตัวแทนของแบรนด์ในโลกดิจิทัล ซึ่งช่วยในการซื้อขาย ตอบคำถาม และแม้กระทั่งแนะนำสไตล์หรือสินค้าให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า

ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น บริการไดร์ฟทรู ระบบ Conversational AI จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสามารถนำ AI agents มาใช้ในการรับออเดอร์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งเสนอขายสินค้าเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ระบบ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาคุณภาพการให้บริการ แต่ยังช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ

 

4. AI ช่วยยกระดับการตรวจสอบเนื้อหาและเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย

ผู้ค้าปลีกจะมีการใช้ AI เพื่อเสริมความปลอดภัยและรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์มากขึ้น โดยหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจคือ การตรวจสอบเนื้อหา เช่น การที่บริษัทใช้ AI เพื่อติดตั้งฟิลเตอร์ความปลอดภัยในการคัดกรองรูปภาพสินค้า พร้อมทั้งตรวจจับและบล็อกเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สอดคล้องกับข้อตกลง ก่อนที่เนื้อหาเหล่านั้นจะไปถึงผู้บริโภค กลไกควบคุมคุณภาพเชิงรุกนี้ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามข้อตกลง แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในหมู่ลูกค้า

นอกเหนือจากการตรวจสอบเนื้อหาแล้ว AI ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการโจรกรรม การตรวจจับการฉ้อโกง และการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยผู้ค้าปลีกสามารถนำความสามารถของ AI ในการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทั้งการช็อปปิ้งและการทำงาน ตัวอย่างเช่น โซลูชันจาก Lytehouse สตาร์ทอัพในสิงคโปร์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัยแบบเรียลไทม์

 

“ข้อมูล” ปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของ AI

การนำ Gen AI มาปรับใช้ในวงกว้างนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ค้าปลีกในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การมีแพลตฟอร์มข้อมูลที่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงและระบบธุรกิจอัจฉริยะ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ AI บริษัทที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงและเข้าถึงข้อมูลจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างคล่องตัว และก้าวสู่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

ในปี 2025 ผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีกจะเป็นผู้ที่สามารถนำ AI มาสร้างมูลค่าให้กับองค์กรในทุกภาคส่วน ด้วยการโฟกัสกับโซลูชันที่สามารถขยายผลได้ สนับสนุนให้พนักงานเข้าถึงเครื่องมือ AI และแก้ไขปัญหาหลักของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจะสามารถขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ยุคใหม่แห่งการเติบโตและนวัตกรรม

 

Mark Micallef กรรมการผู้จัดการ Google Cloud Southeast Asia

[อ่าน 142]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 ทริค ขับขี่ “รถไฟฟ้า” ให้ปลอดภัย ต้องรู้ไว้ก่อนเดินทางไกลส่งท้ายปี!
“ออริจิ้น” โชว์ยอดขายต่างชาติทั้งปี 2567 ทะลุ 5,700 ล้านบาท ทุบสถิติใหม่
“Amazing Coding By Micro bit” .. CONNEXT ED หนุน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ชัยภูมิ เรียนรู้โค้ดดิ้ง
กรุงศรี ออโต้ ประกาศความสำเร็จ แอป โก บาย กรุงศรี ออโต้ คว้า 5 รางวัลระดับโลก
เตรียมความพร้อม centralwOrld Countdown ผนึกภาครัฐ-เอกชน ย้ำความปลอดภัย-การเดินทาง
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้ศักยภาพทำเลบางนา-ตราด ดาวรุ่งโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved