จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน Chula the Impact ครั้งที่ 29 ภายใต้หัวข้อ “Chula-KBTG: AI for the Future” ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยภายในงานมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) พร้อมเปิดตัวระบบ “AI LUCA” และ “Virtual Patient” ที่พัฒนาร่วมกันอย่างเป็นทางการ
งาน “Chula-KBTG: AI for the Future” ในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อการศึกษาที่มุ่งยกระดับกระบวนการเรียนการสอนและการพัฒนานิสิตนักศึกษาในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในบริบทของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาในประเทศไทย
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ KBTG ได้ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์การบัญชีพัฒนา ระบบ AI LUCA นวัตกรรมสำหรับการเรียนการสอน เพื่อสนับสนุนการทำงานด้านวิชาการ วิชาชีพ และสังคม เช่น การสร้างคำถามข้อสอบ การตอบคำถามเชิงวิจัย และการอำนวยความสะดวกในการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไปจนถึงการเพิ่มระบบเข้าบัญชีเสริมความปลอดภัย การสร้างเมนูเฉพาะสำหรับอาจารย์ และการพัฒนาให้รองรับการใช้งานในหลากหลายสาขาวิชา ช่วยให้ทั้งนิสิตและคณาจารย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ในการวิจัย ระบบ Virtual Patient หรือคนไข้จำลอง พัฒนาต้นแบบจำลองเสมือนจริงสำหรับการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาแพทย์ เพื่อสร้างประสบการณ์และเสริมความเชี่ยวชาญให้แก่นักศึกษาแพทย์ เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สถานการณ์จริงในอนาคต
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า
ตนในฐานะตัวแทนของจุฬาฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ KBTG เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับใช้ในการเรียนการสอน โดย AI ทั้งสองระบบที่จุฬาฯ โดยคณะแพทยศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ร่วมกับ KBTG กำลังพัฒนาขึ้นนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและนิมิตหมายอันดีสำหรับความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ และ KBTG และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ “Chula Power of Togetherness” มีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนการสอนที่นำสมัย โดยมีนิสิตเป็นศูนย์กลาง และเพื่อขับเคลื่อนจุฬาฯ สู่การเป็น “AI University” และการเป็น AI Hub ของภูมิภาคอาเซียนด้วย
“ในอนาคตอันใกล้ จะมีหลายอาชีพที่ถูกแทนที่ด้วย AI บทบาทของมหาวิทยาลัยในวันนี้ไม่ใช่เรื่องการศึกษา แต่เป็นเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศด้วย เราจึงจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเอไอเป็นตัวเสริมเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ถึงเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ” ศ.ดร.วิเลิศ กล่าว
เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเพิ่มเติมว่า
KBTG มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับการศึกษาในประเทศไทยผ่านการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรด้านดิจิทัลที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับคนไทยทั่วประเทศ ยกตัวอย่างเช่น โครงการ KBTG Kampus ที่เน้นพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่บุคลากรไอที รวมถึงการร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในสาขาเฉพาะทาง เช่น การแพทย์และการบัญชี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมการศึกษา ไปสู่การใช้งานจริงในภาคสาธารณชนต่อไป
ทั้งนี้ ความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership) ในการผลักดันการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเน้นให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้อย่างเท่าเทียม ผนวกกับการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาในทุกระดับชั้น (Education Inclusion) พร้อมเสริมสร้างบทบาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ KBTG ในฐานะผู้นำด้านการศึกษาการพัฒนางานวิจัยด้าน AI และเทคโนโลยีทางไอที ตามแนวคิด Human-First x AI First ของ KBTG ที่ต้องการดึงศักยภาพสูงสุดของมนุษย์และ AI มาผสานเข้าด้วย เพื่อสร้างประโยชน์และส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า สังคม และประเทศ ตอกย้ำถึงบทบาทของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการศึกษาในระดับประเทศและระดับสากล