กัลเดอร์มา (Galderma) เดินหน้านำเสนอข้อมูลล่าสุดจากพอร์ตโฟลิโอนวัตกรรมด้านความงามของบริษัทฯ ในงานประชุมระดับโลก International Master Course on Aging Science (IMCAS) World Congress 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2025 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เปิดข้อมูล 10 ผลงานวิจัยในรูปแบบ e-poster ที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของผลิตภัณฑ์เสริมความงามของกัลเดอร์มา อาทิ RelabotulinumtoxinA, Skin Sculpting Solution และผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรจัดสัมมนาวิชาการ 3 หัวข้อ กิจกรรมมาสเตอร์คลาส และกิจกรรม Meet the Expert ถึง 5 หัวข้อ นอกจากนี้ยังจัด Interactive Booth ที่นำเสนอความโดดเด่นของ RelabotulinumtoxinA

ศ.ดร. บาลโด สกาเซลลาติ สฟอร์โซลินี หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาระดับโลก กัลเดอร์มา กล่าวว่า

“การได้มีบทบาทสำคัญในงานประชุม IMCAS ปีนี้ ไม่เพียงเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะได้แบ่งปันความก้าวหน้าล่าสุดจากพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์เสริมความงามแล้ว แต่ยังเป็นโอกาสในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญผ่านการแบ่งปันข้อมูลและการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึก สิ่งที่บริษัทฯ นำเสนอในงาน IMCAS ช่วยเสริมให้ Integrated Dermatology Strategy เป็นจริง สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ และตอกย้ำความเป็นผู้นำของกัลเดอร์มาในด้านนวัตกรรมดูแลผิว”

ภก. พิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงามประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“การนำเสนอข้อมูลอัปเดตของผลิตภัณฑ์เสริมความงามในงาน IMCAS 2025 ไม่เพียงตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพิสูจน์ทางคลินิก แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความงามและสุขภาพผิวอย่างรอบด้าน งานประชุมนี้ยังถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับแลกเปลี่ยนความรู้ของแพทย์ด้านความงามทั่วโลก ในโอกาสนี้ กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จึงได้เชิญคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและการปรับรูปหน้าจากประเทศไทยกว่า 40 คน ไปร่วมอัปเดตวิทยาการใหม่ๆ เพื่อนำองค์ความรู้มาร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล”

ข้อมูลอัปเดตจากพอร์ตผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม

ข้อมูลใหม่นี้ครอบคลุมถึงผลการศึกษาวิจัยของโครงการ RELAX เฟส 3b ที่มุ่งศึกษาประสิทธิภาพด้านความงามในระยะยาวและความพึงพอใจในช่วง 12 เดือนของอาสาสมัครของงานวิจัย หลังจากฉีด RelabotulinumtoxinA เพียง 1 โดสให้กับผู้ที่มีรอยย่นระหว่างคิ้วในระดับลึกปานกลางถึงลึกมาก¹⁵ ผลการศึกษานี้ช่วยตอกย้ำข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกในโครงการ READY ที่เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ โดยพบว่า 39% ของผู้ที่ได้รับ RelabotulinumtoxinA เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่วันแรกและ 75% พบว่าผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 6 เดือน ทั้งในส่วนของรอยย่นระหว่างคิ้วและรอยตีนกา^3,4,7

ข้อมูลเหล่านี้ตอกย้ำถึงความแตกต่างทางวิทยาศาสตร์ของ RelabotulinumtoxinA พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี PEARL ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกัลเดอร์มา ที่ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของโมเลกุลและแสดงให้เห็นว่าไม่มีการสร้างแอนติบอดีที่เป็นกลาง (Neutralizing Antibody) ตลอดการทดลองเฟส 3 ของ RelabotulinumtoxinA^16,17 นอกจากนี้ยังนำเสนอผลวิเคราะห์การทดสอบหลัง (Post-hoc Analysis) จากการทดลอง READY เฟสที่ 1 - 3 ซึ่งยืนยันถึงประสิทธิภาพของ RelabotulinumtoxinA จากการใช้จริงกับผู้เข้ารับรักษาที่มีความหลากหลายของผิว ชาติพันธุ์ และเชื้อชาติรวมกว่า 1,700 คน¹⁸

กัลเดอร์มายังได้จัดสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “Go Beyond with RelabotulinumtoxinA: Step into the Future” ขึ้นภายในงาน โดยนำเสนอผลวิจัยทางคลินิกและแนวทางการใช้เชิงปริมาตรของ RelabotulinumtoxinA โดยสาธิตการฉีดจริง พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกด้านวิทยาการอันก้าวล้ำของ RelabotulinumtoxinA และเทคโนโลยี PEARL

พร้อมกันนี้ กัลเดอร์มาได้เปิดข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Skin Sculpting Solution นวัตกรรมเสริมความงามกลุ่มสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Regenerative Biostimulator) ชนิดแรกที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิก ที่มีอนุภาคกรด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว^8-12 ข้อมูลใหม่นี้ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการฟื้นฟูผิวทั้ง 3 ชั้นและบทบาทสำคัญในวงการความงามเชิงฟื้นฟู รวมถึงประโยชน์เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ^19-21 โดยพบว่า Skin Sculpting Solution ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิว รวมถึงมีข้อมูลยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นี้มีโปรไฟล์ความปลอดภัยที่ดีอีกด้วย^19-21 นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเชิงเปรียบเทียบเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่เสริมเมื่อใช้ Skin Sculpting Solution ร่วมกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ALASTIN ในบริเวณส่วนกลางใบหน้า พบว่ามีการฟื้นฟูผิวที่มีริ้วรอยแห่งวัยและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้รับการรักษา²²

ข้อมูลล่าสุดจาก 3 กรณีศึกษาในกลุ่มผลิตภัณฑ์สารเติมเต็ม แสดงให้เห็นว่าการรักษาด้วยสาเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid – HA) ไม่เพียงช่วยเสริมเสน่ห์ดึงดูดและความอ่อนเยาว์ แต่รักษาความความเป็นธรรมชาติเอาไว้ทั้งในขณะที่ใบหน้าผ่อนคลายและเมื่อมีการแสดงออกทางใบหน้า²³ สำหรับสารเติมเต็มรุ่นใหม่ SHAYPE เป็นสารเติมเต็ม HA ซึ่งมีความหลากหลายและโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี NASHA HD นวัตกรรมจากกัลเดอร์มาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงโมเลกุล ทำให้มีปริมาณ HA มากขึ้น ข้อมูลใหม่นี้ยังระบุว่าสารเติมเต็ม SHAYPE และมีความหนาแน่น (G-prime) สูงที่สุดในกลุ่มฟิลเลอร์ HA ทั่วไป สะท้อนถึงความแข็งแรงและความแน่นของเนื้อเจลที่เหนือกว่า จึงเหมาะกับการใช้เพื่อปรับรูปทรงบริเวณส่วนล่างของใบหน้า¹⁴

เชื่อมต่อกับเครือข่ายการแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง

นอกจากการแบ่งปันข้อมูลใหม่ๆ แล้ว งาน IMCAS World Congress ยังเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมต่อและขยายเครือข่ายแพทย์ด้านผิวหนังจากทั่วโลก เพื่อเอื้อให้เกิดการแบ่งปันวิธีปฏิบัติที่ดีและเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างนวัตกรรมต่อไปในอนาคต ซึ่งในปีนี้จะฉลองครบรอบ 10 ปี Galderma Aesthetic Injector Network (GAIN) แพลตฟอร์มเพื่อการฝึกอบรมที่ได้รับการก่อตั้งมาอย่างยาวนาน เพื่อให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และให้การสนับสนุนผ่านการสร้างสรรค์เครือข่ายพิเศษของผู้ประกอบวิชาชีพด้านความงามที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญสูง ดังนั้นเพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของเครือข่ายนี้ กัลเดอร์มาได้จัดสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “GAIN Debates: Crafting Our Aesthetic Lives – Prioritization for Impactful Treatment” และสัมมนาวิชาการหัวข้อ “Innovation by Galderma: Where Aesthetics Meets Science” ภายในงานประชุมครั้งนี้อีกด้วย

กัลเดอร์มายังจัดกิจกรรมมาสเตอร์คลาส เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามเพื่อแก้ไขปัญหาความงามที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากยาที่ทำให้น้ำหนักตัวลดลง รวมถึงจัดกิจกรรม Meet the Expert รวม 5 ครั้ง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำวิทยาการด้านผิวหนังของกัลเดอร์มา โดยจัดขึ้นในหลายหัวข้อ อาทิ คุณภาพผิว การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ตลอดจนนำเสนอแนวทางใหม่ในการใช้สารเติมเต็มประเภท HA เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ALASTIN, Skin Sculpting Solution และ RelabotulinumtoxinA

ข้อมูลอ้างอิง:

1. Sundberg AL and Stahl U. Relabotulinum toxin - a novel, high purity BoNT-A1 in liquid formulation. Presented at: TOXINS 2021; Jan 16-17, 2021; virtual meeting
2. Do M, et al. Purification process of a complex-free highly purified botulinum neurotoxin type A1 (BoNT-A1) - relabotulinumtoxinA. Presented at: TOXINS 2022; July 27-30, 2022; New Orleans, LA
3. Shridharani SM, et al. Efficacy and Safety of RelabotulinumtoxinA, a New Ready-to-Use Liquid Formulation Botulinum Toxin: Results From the READY-1 Double-Blind, Randomized, Placebo-Controlled Phase 3 Trial in Glabellar Lines. ASJ. 2024; sjae131
4. Ablon G, et al. Efficacy and Safety of RelabotulinumtoxinA Liquid Botulinum Toxin in the Treatment of Lateral Canthal Lines: Results From the Phase 3 READY-2 Study. Dermatol Surg. 2024. doi: 10.1097/DSS.0000000000004470
5. Prather HB, et al. Efficacy and safety of a novel formulation liquid botulinum toxin, RelabotulinumtoxinA, when used for combination treatment of glabellar and lateral canthal lines. E-poster presented at: ASDS 2024; October 17-20, 2024; Orlando, Florida, United States
6. Beer K, et al. READY-4: Long-term safety with repeated injections using RelabotulinumtoxinA, a novel liquid formulation botulinum toxin, in the treatment of glabellar and lateral canthal lines. E-poster presented at: ASDS 2024; October 17-20, 2024; Orlando, Florida, United States
7. Relfydess^®. EU Summary of Product Characteristics
8. Sculptra^®. EU Instructions for Use. 2021. Available online. Accessed January 2025
9. Widgerow A, et al. A randomized, comparative study describing the gene signatures of Poly-L-Lactic Acid (PLLA-SCA) and Calcium Hydroxylapaptite (CaHA) in the treatment of nasolabial folds. Poster presented at IMCAS World Congress, February 1-3, 2024, Paris, France
10. Galderma. Data on File (MA-60875)
11. Zhang Y, et al. In vivo inducing collagen regeneration of biodegradable polymer microspheres. Regen Biomater. 2021;8(5):rbab042. doi: 10.1093/rb/rbab042
12. Huth S, et al. Molecular Insights into the effects of PLLA_SCA on Gene Expression. J Drugs Dermatol. 2024;23(4):285-288. doi: 10.36849/JDD.7791
13. Philipp-Dormston, W.G., Wong, C., Schuster, B., Larsson, M.K. and Podda, M., 2018. Evaluating perceived naturalness of facial expression after fillers to the nasolabial folds and lower face with standardized video and photography. Dermatologic Surgery, 44(6), pp.826-832.
14. Bromée T, et al. A new hyaluronic acid injectable, HASHA, sets new G-prime standards. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
15. Moradi A, et al. Aesthetic improvement and subject satisfaction with liquid relabotulinumtoxinA treatment of glabellar lines in a 12-month, randomized, controlled trial. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France
16. Lekholm E, et al. RelabotulinumtoxinA, a ready-to-use formulation neuromodulator manufactured with PEARL™ technology to maintain high potency and specific activity. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
17. Nestor M, et al. RelabotulinumtoxinA did not induce the formation of neutralizing antibodies across almost 1700 subjects treated in the Phase III Program. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
18. Bertucci V, et al. Treatment of Glabellar Lines and Lateral Canthal Lines with RelaBoNT-A Across Different Ethnicity and Race: Pooled Data from Three Phase III Studies. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
19. Fabi S, et al. Regenerative aesthetic effects of poly L-lactic acid (Sculptra^®) treatment. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
20. Haddad A, et al. Comparing poly L-lactic acid (PLLA-SCA) and calcium hydroxylapatite (CaHA-R) in-vivo. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
21. Avelar L, et al. Comparing two biostimulators on the local tissue response and degradation in-vivo with an indirect comparison to clinical outcomes. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
22. Markowitz O, et al. Evaluation of synergistic effects for midface improvement when pairing Sculptra^® (PLLA-SCA) with Alastin skincare^®: A comparative study. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
23. Nikolis A, et al. Hyaluronic acid fillers preserve natural movement and dynamic expression: data from three Phase IV clinical trials. Abstract presented at IMCAS World Congress, January 30 – February 1, 2025, Paris, France.
24. Persson C, et al. Patient and Investigator Treatment Experience with Ready-to-Use AbobotulinumtoxinA Solution Versus Powder BotulinumtoxinA for Treatment of Glabellar Lines. Abstract presented at TOXINS 2024; Jan 17-20, 2024, Berlin
25. U.S. Food and Drug Administration. Sculptra summary of safety and effectiveness data. Available online. Accessed January 2025.
26. Galderma. Data on File (MA-46589)
27. Duracinsky M, et al. Safety of poly-L-lactic acid (New-Fill^®) in the treatment of facial lipoatrophy: a large observational study among HIV-positive patients. BMC Infect Dis. 2014;14(474). doi:10.1186/1471233414474
28. Zhang S and Duan E. Fighting against Skin Aging: The Way from Bench to Bedside. Cell Transpl. 2018;27(5):729-738. doi: 10.1177/0963689717725755
29. Asius J, et al. Inventors. US patent US 7,731,758 B2.2010. Available online. Accessed January 2025
30. Morgan P, et al. Product Manufacturing Process for Poly-L-lactic acid (PLLA-SCA). Poster presented at IMCAS World Congress, January 26–28, 2023, Paris, France
31. Galderma. Data on File (MA-53568)
32. Shuster S, et al. The influence of age and sex on skin thickness, skin collagen and density. Br J Dermatol. 1975;93(6):639-43. doi: 10.1111/j.1365-2133.1975.tb05113.x
33. Goldberg D, et al. Single-arm study for the characterization of human tissue response to injectable poly-L-lactic acid. Dermatol Surg. 2013;39:915–22
34. Zarbafian M, et al. The emerging field of regenerative aesthetics—where we are now. Dermatol Surg. 2022;48: 101–108. doi: 10.1097/DSS.0000000000003239
35. Waibel J, et al. Gene Analysis of Biostimulators: PLLA-SCA Triggers Regenerative Morphogenesis while CaHA-R Induces Inflammation upon Facial Injection. Poster presented at ASDS 2024, October 17-20, 2024, Orlando, Florida, United States
36. Waibel J, et al. Bulk RNA-seq Analysis of Poly-L-Lactic Acid (PLLA-SCA) vs Calcium Hydroxyapetite (CaHA-R) Reveals a Novel, Adipocyte Mediated Regenerative Mechanism of Action Unique to PLLA. Poster presented at ASDS 2024 Annual Meeting, October 17-20, 2024, Orlando, Florida, United States
37. Haddad S, et al. Evaluation of the biostimulatory effects and the level of neocollagenesis of dermal fillers: a review. Int J Dermatol. 2022;61:1284–1288. doi: 10.1111/ijd.16229
38. Vleggaar D, et al. Consensus recommendations on the use of injectable poly-L-lactic-acid for facial and nonfacial volumization. J Drugs Dermatol. 2014;13(4 Suppl):s44–s51
39. Hexsel D, et al. Introducing the L-Lift-A Novel Approach to Treat Age-Related Facial Skin Ptosis Using A Collagen Stimulator. Dermatol Surg. 2020;46(8):1122–1124. doi:10.1097/DSS.0000000000002015
40. Fabi S, et al. 24-month clinical trial data on effectiveness and safety after correction of cheek wrinkles using a biostimulatory poly-L-lactic acid injectable implant. Poster presented at AMWC, March 30 - April 1, 2023, Monaco
41. Di Gregorio C. 25+ Years of Experience with the Restylane Portfolio of Injectable Hyaluronic Acid Fillers for Facial Aesthetic Treatment. E-poster presented at AMWC, March 27-29, 2024, Monaco
42. Nikolis A, et al. The Role of Clinical Examination in Midface Volume Correction Using Hyaluronic Acid Fillers: Should Patients Be Stratified by Skin Thickness? Aesthet Surg J Open Forum. 2020; 2(1):1–12.
43. Galderma. Data on file. Subject satisfaction (GAIS) – NASHA and OBT Fillers. 2021
44. Restylane U.S. Instructions For Use. Available online. Accessed January 2025.
45. Kablik J, et al. Comparative Physical Properties of Hyaluronic Acid Dermal Fillers: Dermatologic Surgery 35, 302–312 (2009).
46. Narins RS, et al. Persistence of nasolabial fold correction with a hyaluronic acid dermal filler with retreatment: results of an 18-month extension study. Dermatol Surg. 2011;37:644–650
47. Talarico S, et al. High Patient Satisfaction of a Hyaluronic Acid Filler Producing Enduring Full-Facial Volume Restoration: An 18-Month Open Multicenter Study. Dermatol Surg. 2015;41:1361–1369
48. Ohrlund A, et al.. Differentiation of NASHA and OBT Hyaluronic Acid Gels According to Strength, Flexibility, and Associated Clinical Significance. JDD. 2024; 23(1), pp.1332-1336.
49. Solish N, et al. Dynamics of hyaluronic acid fillers formulated to maintain natural facial expression. J Cosmet Dermatol. 2019;18(3):738-46.
50. Philipp‐Dormston WG, et al. Perceived naturalness of facial expression after hyaluronic acid filler injection in nasolabial folds and lower face. J Cosmet Dermatol. 2020;19(7):1600-6.