เซ็นทารา เผยแผนธุรกิจ 2568 พร้อมขับเคลื่อนเติบโตสู่ตลาดโลก ตั้งเป้ารายได้โต 23% ลุยเปิดโรงแรมเพิ่ม 9 แห่ง
03 Mar 2025

โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย เผยแผนธุรกิจและกลยุทธ์เติบโตในปีพ.ศ. 2568 เดินหน้าขยายสาขาไปยังตลาดใหม่ทั่วโลก พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า มุ่งมั่นก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี พ.ศ. 2570 และเป็นแบรนด์ที่เป็นสถานที่แห่งความสุข สมดังสโลแกน The Place to Be สำหรับนักเดินทางทั่วโลก

 

 

ปีพ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของเซ็นทารา โดยโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,230 ล้านบาท (หรือ 12%) เทียบปีก่อน โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามีกำไรสุทธิจำนวน 1,097 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของผลการดำเนินงานของรีสอร์ทในมัลดีฟส์

ล่าสุดได้เปิดให้บริการเซ็นทารา มิราจ ลากูน  มัลดีฟส์ รีสอร์ทธีมดินแดนใต้น้ำสุดมหัศจรรย์ บนเกาะสวรรค์ในพื้นที่มาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์อันสวยงามไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และกำลังจะเปิดให้บริการเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ รีสอร์ทหรูเพื่อการพักผ่อนแบบเหนือระดับบนเกาะเดียวกันในเดือนเมษายนนี้

ซึ่งนั่นจะทำให้เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในมัลดีฟส์รวมกันทั้งสิ้น 4 โรงแรม ภายใต้แบรนด์และธีมที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ แบรนด์เซ็นทารา (Centara), แบรนด์เซ็นทารา แกรนด์ (Centara Grand), แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) และรีสอร์ทภายใต้ธีมมิราจ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้าในตลาดมัลดีฟส์

 

ในด้านกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาแบรนด์ เซ็นทาราได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ๆ ตลอดช่วงไม่กี่ปีมานี้ เริ่มตั้งแต่การเปิดตัว แบรนด์สุดหรูอย่างเซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve) และแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมมอบอิสระแห่งการพักผ่อนอย่างเซ็นทารา ไลฟ์ (Centara Life)

โดยล่าสุดในเดือนมกราคมปีนี้ เซ็นทาราได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่อีกแบรนด์ คือ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) แบรนด์ใหม่ล่าสุดในเครือ ที่นำเสนอโรงแรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตนอย่างแตกต่าง ผ่านดีไซน์ มนต์เสน่ห์ท้องถิ่น และประสบการณ์เข้าพักอันน่าประทับใจ

โดยในปัจจุบันมีโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ทั้งหมด 3 โรงแรม คือ มัชชาฟูชิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์, รุกข์ คีรี เขาใหญ่ และวารีวาน่า รีสอร์ท เกาะพะงัน

ซึ่งเซ็นทารามีแผนจะขยายโรงแรมภายใต้แบรนด์นี้ไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้

 

 

นอกจากนั้น ในปีพ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา และเซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นอีกสองโรงแรมแฟล็คชิพของเครือเซ็นทาราในประเทศไทย ก็ยังได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังปิดปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ อีกทั้งเซ็นทารายังมีแผนปรับโฉมโรงแรมสำคัญอีกสองแห่งในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ นั่นคือเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน โรงแรมชื่อดังระดับตำนาน ที่เริ่มทยอยปิดปรับปรุงพื้นที่บางส่วนเพื่อสร้างเป็นห้องพักประเภทวิลล่าสุดหรูอีก 70 หลัง โดยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) ผนวกเข้ากับห้องพักที่จะสร้างใหม่เพิ่มอีก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา ไลฟ์ (Centara Life) ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำเซ็นทารามีห้องพักกว่า 484 ห้องให้บริการภายใต้แบรนด์ที่หลากหลาย รวมทั้งเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่ รีสอร์ทที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งส่วนตัวอันเงียบสงบและงดงามของทะเลอันดามัน ก็มีแผนจะปิดปรับปรุงครั้งสำคัญในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าให้กลายมาเป็นเซ็นทารา รีเซิร์ฟ (Centara Reserve) โรงแรมหรูระดับลักชัวรีแห่งที่สองของโลก ที่มุ่งเน้นการบริการอันเหนือระดับเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์การเข้าพักที่จะเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวสุดงดงาม 

 

และเพื่อให้แผนการปรับปรุงโรงแรมและรีแบรนด์สมบูรณ์ที่สุด เซ็นทารายังตั้งเป้าเปิดโรงแรมและรีสอร์ทอีกทั้งสิ้น 9 แห่งในปีนี้ โดยหลังจากที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในกระแส อย่างเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ (ให้บริการห้องพัก 142 ห้อง) ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้แล้ว ยังมีโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ต่อคิวเพื่อรอเปิดให้บริการอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท และโรงแรมภายใต้แบรนด์เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น (The Centara Collection) อีกหนึ่งแห่งบนเกาะบาหลี ที่จะกลายมาเป็นรีสอร์ทแรกภายใต้เครือเซ็นทาราในประเทศเนปาลและอินโดนีเซีย รวมถึงโรงแรมใหม่อีก 2 แห่งในเวียดนาม ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา และเรสซิเดนซ์ วังดอน และคริสตัล ฮอลิเดย์ ฮาร์เบอร์ วังดอน ที่เมื่อรวมกันแล้วจะมีห้องพักให้บริการทั้งสิ้นถึง 977 ห้องด้วยกัน

 

 

ปัจจุบัน เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือทั้งหมด 51 แห่ง พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นเครือโรงแรมชั้นนำ ด้วยการเตรียมเปิดให้บริการโรงแรมทั้งในและต่างประเทศเพิ่มอีก 9 แห่ง ในปี พ.ศ. 2568 นี้ เช่น บน เกาะพีพี, เกาะสมุย และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

ทั้งนี้ การเปิดให้บริการโรงแรมใหม่และการปรับโฉมโรงแรมต่างๆ ในปีนี้ เซ็นทาราคาดว่าจะช่วยส่งผลให้ราคาห้องพักเฉลี่ย และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) ของเซ็นทาราเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ารายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) จะเติบโตประมาณ 23% ในปีนี้

 

ด้านการยกระดับประสบการณ์การบริการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า เซ็นทารายังเตรียมนำเสนออีกหลากหลายประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์เซ็นทารา แกรนด์ และแบรนด์เซ็นทารา รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อช่วยให้ลูกค้าจองห้องพักได้อย่างสะดวกง่ายดาย และได้รับประสบการณ์การบริการเฉพาะบุคคลอันน่าประทับใจยิ่งขึ้น อีกทั้งการนำระบบแชทบอท AI เข้ามาใช้ในการจองผ่านช่องทางของเซ็นทารา และการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น เซ็นทาราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมกับแผนระยะยาวในการลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง อาทิ การลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% และลดการใช้น้ำและการทิ้งขยะไปสู่หลุมฝังกลบ 20% ภายในปีพ.ศ. 2572  โดยเทียบกับปีฐาน 2562 รวมทั้งการตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (NET ZERO) ภายในปีพ.ศ. 2593 โดยในปีพ.ศ. 2567 เซ็นทาราสามารถลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องพักที่มีการใช้งาน (per occupied room) ได้ดีกว่าเป้าหมายในปีเดียวกันที่ตั้งไว้ มากถึง 19% และโรงแรมในเครือเซ็นทารา 8 แห่ง ได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ (Solar Panel) เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยประหยัดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้งโรงแรมและรีสอร์ทในเครือยังได้รับการรับรองด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจาก Global Sustainable Tourism Council (GSTC) เพิ่มขึ้นถึง 93% ทำให้เซ็นทาราเป็นเครือโรงแรมแรกในไทยที่ได้รับการรับรองจาก GSTC

 

นอกจากนั้น เซ็นทารายังได้รับการประเมินจาก S&P Global เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้เป็น Industry Mover และได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก S&P Global Sustainability Yearbook 2024 , ได้รับการประเมินจาก MSCI ในระดับ A ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง อีกทั้งยังผ่านการประเมิน SET ESG Ratings 2024 ระดับ AAA  จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ เซ็นทารายังให้ความสำคัญในเรื่องของความเสมอภาคและความเท่าเทียม (Equality) โดยมีการสนับสนุนการจ้างงานผู้พิการ และมีสัดส่วนระดับผู้บริหารหญิงมากถึง 49% ขององค์กร

 

“ปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จอันโดดเด่นของเซ็นทารา ทั้งจากกำไรสุทธิที่เติบโตถึง 43% เทียบปีก่อน, การเปิดตัวหลากหลายโปรเจกต์สำคัญ และสองโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์บนพื้นที่โครงการณ์ Atollia by Centara ซึ่งผมเชื่อว่าปี พ.ศ. 2568 นี้ ก็จะเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน โดยในปีนี้เรามีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้รวม (รวมโรงแรมร่วมทุน) ให้เพิ่มขึ้น 23% , ขยายโรงแรมไปสู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เรายังไม่เคยไปอย่างอินโดนีเซียและเนปาล เพื่อเติบโตธุรกิจเซ็นทาราให้แข็งแกร่งในตลาดโลก และก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายใน พ.ศ. 2570 ตามเป้าหมายที่เราวางไว้” ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าว

 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้ที่ https://www.centarahotelsresorts.com/th

[อ่าน 176]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พันธุ์ไทย” ล้ำไปอีกก้าว เปิดตัว “ขนมครกยกล้อ”
เปิดแล้ว KING POWER BUTTERBEAR @คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ
Nasket ฉลอง 10 ปี เปิดตัว ‘ตู้น้องแพค’ ลุยตลาดรีเทลในคอนโดฯ ด้วยนวัตกรรมใหม่
SC Asset จับมือ BSI ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานก่อสร้างอย่างยั่งยืน
ซัมซุงเปิดตัว SSD 9100 PRO รุ่นใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคตรงใจ พร้อมรองรับ PCIe 5.0
พฤกษา ปักธงแผนปี 2568 เดินหน้าสู่ผู้นำเวลเนส เรสซิเดนซ์
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved