บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยแผนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจประจำปี 2568 โดยมีจุดมุ่งหมายหลัก 2 ประการ ได้แก่ การบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด และการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
การปรับพอร์ตสินทรัพย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ราช กรุ๊ป มุ่งเน้นการจัดกลุ่มสินทรัพย์และกำหนดกลยุทธ์เฉพาะสำหรับสินทรัพย์แต่ละประเภท รวมถึงการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของโรงไฟฟ้าเดิมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ตัวอย่างเช่น การพัฒนาโครงการ Synchronous Condenser ในออสเตรเลีย ซึ่งช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าท้องถิ่น ราช กรุ๊ป ยังเดินหน้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในโครงการที่ยังมีมูลค่าทางธุรกิจ พร้อมทั้งพัฒนาสินทรัพย์ใหม่และธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองต่อเป้าหมายระยะยาว
นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวในเรื่องนี้ว่า
“ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการทบทวนกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อปรับทิศทางการดำเนินงานให้พร้อมรองรับความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต เรามุ่งเป้าที่จะปรับพอร์ตสินทรัพย์ด้วยการจัดกลุ่มสินทรัพย์และกำหนดกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์แต่ละกลุ่มให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การใช้ AI ในการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า และการพัฒนาสินทรัพย์เดิมให้มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568”
กลยุทธ์การลงทุนมุ่งสู่พลังงานทดแทนและพลังงานรูปแบบใหม่ บริษัทฯ วางแผนกระจายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและพลังงานรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม ออสเตรเลีย และประเทศไทย ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการพลังงานทดแทน 12 โครงการ กำลังผลิตรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ ราช กรุ๊ป ตั้งเป้าขยายกำลังผลิตจากพลังงานทดแทนให้ได้ถึง 30% ของกำลังการผลิตรวมภายในปี 2573 และเพิ่มเป็น 40% ภายในปี 2578
นายนิทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามุ่งมั่นที่จะกระจายการลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งเพิ่มกำลังผลิตในโครงการที่มีอยู่ และขยายการลงทุนในโครงการใหม่ที่รองรับเป้าหมายของเราในอนาคต การลงทุนในพลังงานทดแทนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและเพิ่มความมั่นคงทางรายได้ให้กับผู้ถือหุ้นของเราในระยะยาว”
งบประมาณการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณลงทุนจำนวน 15,000 ล้านบาท สำหรับโครงการใหม่และโครงการที่กำลังพัฒนา ทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนและพลังงานรูปแบบใหม่ เช่น พลังงานไฮโดรเจนสีเขียว พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก และระบบกักเก็บพลังงาน โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับโครงการสำคัญ 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้านวนครส่วนขยายในไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำซองเกียง 1 ในเวียดนาม และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ NPSI ในฟิลิปปินส์
ด้วยแผนการปรับพอร์ตสินทรัพย์และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ราช กรุ๊ป ตั้งเป้าที่จะสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงสำหรับผู้ถือหุ้น และเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืนในภูมิภาคนี้