กระทรวงกลาโหมเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลในวาระที่ประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ในปี 2562 เตรียมความพร้อมทุกด้านในการเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนครั้งที่ 13 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 6 ชูประเด็นความมั่นคงแบบ 3S เข้าสู่เวทีเจรจา โดยเน้นความร่วมมือที่ยั่งยืน บูรณาการขับเคลื่อน และสนับสนุนกิจกรรมคาบเกี่ยว 3 เสาหลักเชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อพัฒนาความอยู่ดีกินดีของประชาชนอาเซียนให้เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งชวนเชิญบุคลากรของกระทรวงกลาโหมและประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพที่ดี
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมุ่งสานต่อนโยบายรัฐบาลในการดูแลและเตรียมความพร้อมทุกด้านในการเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence Ministers’ Meeting) หรือ ADMM ครั้งที่ 13 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence Ministers’ Meeting-Plus)หรือ ADMM-Plus ครั้งที่ 6 ในวาระที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน ครั้งที่ 34 ในปีนี้
ในด้านการเตรียมความพร้อม พลเอก ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงกลาโหมเร่งให้ความรู้ความเข้าใจทั้งแก่กำลังพลของกระทรวงฯ และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับความสำคัญของการประชุมADMMและADMM-Plus ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค ผ่านกลไกการหารือและความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและนอกภูมิภาคอย่างโปร่งใสและเปิดเผย
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้กล่าวถึง “ประเด็นสำคัญที่จะผลักดันเป็นวาระการประชุมในทั้งสองเวที โดยกระทรวงกลาโหมได้กำหนดประเด็นด้านความมั่นคงในรูปแบบของ-3S-คือ 1)Sustainable-Security– เสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ยั่งยืน- 2)Strengthening-Consolidatingand-Optimising-Defence-Cooperation- เสริมสร้างความเข้มแข็งบูรณาการขับเคลื่อน และเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงไปข้างหน้าร่วมกัน และ 3)Supporting-Cross-PillarActivities- สนับสนุนกิจกรรมคาบเกี่ยวระหว่าง 3 เสาความร่วมมือ- และส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค ในการพัฒนาความอยู่ดีกินดีของประชาชนอาเซียนให้เท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่นายกรัฐมนตรีต้องการสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต โดยมีความสมดุลในทั้ง 3 เสาความร่วมมือภายใต้แนวคิด ‘ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน’-(Advancing-Partnership-for-Sustainability)”
สันติภาพและความไว้วางใจระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนก็เป็นพื้นฐานสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชายแดนไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล ฝ่ายการทหารของอาเซียนมีบทบาทในการสนับสนุน การบริหารจัดการชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้จะมีการเพิ่มประเด็นการแก้ไขปัญหาการทำประมงอย่าง ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังเตรียมการดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมที่สำคัญ อาทิ ศูนย์แพทย์อาเซียน การฝึกร่วมทางฝ่ายอำนวยการด้านการรักษาสันติภาพ และการต่อต้านการก่อการร้าย ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือ ด้านความมั่นคงอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนร่วมกัน
ในปีนี้ การประชุมADMM-และ-ADMM-Plus จะมีการประชุมรวม 4 ช่วงเวลา เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตั้งแต่ระดับคณะทำงาน ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ระดับปลัดกระทรวง และระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะมีกำหนดการเริ่มจาก (1) การประชุม ADSOM WGและ ADSOM–Plus WG จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562 ณ จังหวัดภูเก็ต (2) การประชุมADSOM และ ADSOM–Plus จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 เมษายน 2562 ณ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (3) การประชุมADMMครั้งที่ 13จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 12 กรกฎาคม 2562 ณ กรุงเทพฯ และสุดท้าย (4) การประชุมADMM Retreat และ ADMM-Plus ครั้งที่ 6 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16–19 พฤศจิกายน 2562 ณ กรุงเทพฯ
กระทรวงกลาโหมจึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีเพื่อต้อนรับตัวแทนประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจา ตลอดปี 2562