มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดฉากงานมอเตอร์โชว์ 2025 อย่างน่าจับตา ด้วยการยกขบวนยนตรกรรมไฮไลต์มาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมชูแนวทางพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แบบ “Multi-solution” ที่เน้นการใช้พลังงานทางเลือกหลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน และสอดรับการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

มาสด้ายังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า โดยมี “ความสุขในการขับขี่” เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์

“เรามุ่งมั่นส่งมอบความสุขในการขับขี่ เพราะเราเชื่อว่าเมื่อการขับรถยนต์สามารถสร้างความสุขได้ ก็จะต่อยอดไปสู่ความสุขในชีวิตประจำวันของผู้คน ปีนี้เราต้องการสื่อสารวิสัยทัศน์นี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด Joy Drives Lives ผ่านกลยุทธ์ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงประสบการณ์หลังการขาย”

เขายังกล่าวถึงแนวทาง “Multi-solution” ว่าเป็นกลยุทธ์หลักของมาสด้าในการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม โดยในช่วงปี 2025-2027 มาสด้าอยู่ระหว่างเฟสที่ 2 ของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะมีการทยอยเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือก ทั้งรถไฮบริด (Hybrid), ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) อย่างต่อเนื่อง

“เราต้องการให้ลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในไทย ได้เข้าถึงเทคโนโลยียานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งาน ความสุขในการขับขี่ และความยั่งยืนในระยะยาว” นายธีร์กล่าว

ไฮไลต์เด่นในบูธมาสด้า

Mazda Iconic SP
รถต้นแบบดีไซน์สปอร์ตขนาดคอมแพ็ค ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมเครื่องยนต์โรตารี่ 2 โรเตอร์ ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ โดยรองรับการใช้พลังงานสะอาดหลากหลายชนิด อาทิ ไฮโดรเจน และพลังงานจากแหล่งธรรมชาติ เช่น สาหร่ายขนาดเล็กหรือเปลือกหอย

รถต้นแบบคันนี้ออกแบบตามแนวคิด Kodo Design มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ น้ำหนักเบา กระจายน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50 และยังสะท้อนปรัชญา “จินบะ-อิไต” ที่เน้นความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวระหว่างผู้ขับกับรถ สีตัวถัง “Viola Red” ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อถ่ายทอดความสง่างามและความเร้าใจในทุกมุมมอง

Mazda6e
รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากมาสด้าที่พัฒนาภายใต้แนวทาง Multi-solution มาพร้อมดีไซน์แบบ Fastback โฉบเฉี่ยวทันสมัย ผสานสไตล์สปอร์ตของรถซีดาน แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 80 กิโลวัตต์ รองรับการขับขี่ได้ไกลถึง 552 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และรองรับระบบชาร์จด่วน (Fast Charge) ที่สามารถชาร์จไฟจาก 30%-80% ได้ภายใน 15 นาที

New Mazda2 Essential
รุ่นปรับโฉมใหม่สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจเนอเรชัน Z ที่มองหารถคันแรกที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์ ความคุ้มค่า และฟังก์ชันการใช้งาน เปิดตัวพร้อม 4 รุ่นย่อย ได้แก่ PRIME, ULTRA, SIGNATURE (1.3 ลิตร) และ XDL SIGNATURE (1.5 ลิตรดีเซล) ราคาเริ่มต้นเพียง 529,000 บาท

นายภพนิพิฐ จิรวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า

“เราต้องการให้ New Mazda2 Essential เป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุดสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่อยากมีรถยนต์คันแรกที่ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย เพราะมีครบทุกฟังก์ชัน ทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองอย่างชัดเจน”

New Mazda MX-5 35th Anniversary Edition
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือรถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นพิเศษ ครบรอบ 35 ปีของ Mazda MX-5 ที่มาพร้อมการตกแต่งเฉพาะรุ่น สีภายนอก Artisan Red Premium เบาะหนังสี Sports Tan ล้ออัลลอย 17 นิ้ว และสัญลักษณ์เฉพาะรุ่น ผลิตจำนวนจำกัด เปิดราคาจำหน่าย 3,069,000 บาท

โปรโมชั่นสุดคุ้มในงาน

ลูกค้าที่จองรถยนต์มาสด้าภายในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือโชว์รูมทั่วประเทศ จะได้รับข้อเสนอพิเศษ เช่น:

• ดอกเบี้ย 0%*

• ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน*

• ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance*

• ฟรีบัตรน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท*

• ฟรีโปรแกรมดูแลรถ MUS นานสูงสุด 7 ปี*

• ฟรีเครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น IG-NX2B มูลค่า 3,990 บาท**

ลูกค้าที่สนใจชมยนตรกรรรมจากมาสด้า สามารถเข้าชมได้ที่บูธรถยนต์มาสด้าในงานมอเตอร์ โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม 2568 – 6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

 

เงื่อนไข

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th
หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ที่ปรึกษาการขายมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

**สำหรับลูกค้าที่จองซื้อรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น 3,000 บาท และออกรถภายใน 30 เมษายน 2568