ไทยเบฟฯ ปรับโครงสร้างใหญ่ วาง ‘One Food – One Team – One Goal’ ส่ง ‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ ขับเคลื่อนธุรกิจอาหาร สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
06 Apr 2025

 

ท่ามกลางกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารในไทยที่มีมูลค่ามากกว่า 7 แสนล้านบาทต่อปี และยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีก 5-7% (อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย) กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ หรือ “ไทยเบฟฯ” ได้เขย่าพอร์ตธุรกิจอาหารครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ด้วยการปรับโครงสร้างบริหารที่ถือเป็น “Game Changer” สำคัญ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอาหาร ซึ่งปัจจุบันถือเป็นธุรกิจน้องเล็กที่สุดในเครือ แต่กลับมีศักยภาพที่มหาศาล
 

การปรับใหญ่ครั้งนี้ นำโดยการแต่งตั้ง “ไพศาล อ่าวสถาพร” ผู้บริหารมากประสบการณ์ในแวดวงอาหารกว่า 40 ปี ด้านร้านอาหารไทย–ตะวันตก–ญี่ปุ่น รวมถึงธุรกิจแพคฟู้ดส์ (อาหารบรรจุ) และการผลิตอาหารในโรงงานระดับประเทศและระดับโลก มาดำรงตำแหน่ง “ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย” ดูแลภาพรวมธุรกิจอาหารทั้งเครือไทยเบฟฯ นับตั้งแต่ KFC, โออิชิ, แบรนด์ในกลุ่ม Food of Asia (FOA) และแบรนด์อื่นๆ รวม 28 แบรนด์ กว่า 30,000 พนักงาน

 

ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) 
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)



“One Food–One Team–One Goal” ชูวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนสู่ Food Empire ยั่งยืน
 

ภายใต้การนำของ “ไพศาล” โครงสร้างธุรกิจอาหารของไทยเบฟฯ ถูกวางใหม่ภายใต้แนวคิด “One Food–One Team–One Goal” หรือ ONE FOODS GROUP เพื่อรวมศูนย์การบริหารและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดซื้อ การบริหารโลจิสติกส์ การตลาด และการสนับสนุนต่างๆ ให้เกิดการทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกัน พร้อมบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือหลักในการ “ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า” และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 


“ผมเองไม่เคยรู้ล่วงหน้าแม้แต่วันเดียวว่าจะถูกดึงมารับหน้าที่นี้” ไพศาลเล่าอย่างตรงไปตรงมา “งานแรกในวันแรก คือการรวมศูนย์การบริหารทุกด้านหลังบ้านของแต่ละแบรนด์ให้อยู่ใน One Team เพื่อสร้างการประสานร่วมกันที่ชัดเจน ลดการทำงานทับซ้อน และสร้างซินเนอร์ยี รวมถึงการวางเป้าหมายเดียวกันในชื่อ One Goal”


 


พร้อมกันนี้ ยังมีทีมบริหารที่ดูแลแต่ละบริษัทในเครือ ได้แก่

  • ศสัย ตังเตชะหิรัญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ โฮลดิ้ง จำกัด (OISHI) ดูแลร้านอาหารญี่ปุ่น ทั้งบุฟเฟต์, อะลาคาร์ต และอาหารพร้อมปรุงพร้อมทานภายใต้ตราสินค้าโออิชิ
  • อรณัฐร์ ผกาภรณ์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (QSA) ผู้ถือสิทธิแฟรนไชส์แบรนด์ KFC ในไทย ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 500 สาขา
  • ธารินทร์ รินธนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด ออฟ เอเชีย จำกัด (FOA) ดูแลแบรนด์อาหารทั้งไทย จีน อาเซียน ตลอดจนอาหารตะวันตก และขนมเบเกอรี่ที่อยู่ในเครือ


 

4 เสาหลัก พาธุรกิจโตสองหลัก
จุดพลุปั้นแบรนด์ใหม่–สร้าง Brand Experience

เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตแบบ “สองหลัก” ไพศาลชี้ว่า บริษัทได้วาง “4 กลยุทธ์” ไว้อย่างชัดเจน ได้แก่

  1. ขยายสาขา (Expansion) – เพิ่มจุดให้บริการในพื้นที่ใหม่ๆ และพัฒนารูปแบบร้านให้หลากหลายขึ้น รวมถึงลงทุนเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค

  2. ยกระดับประสบการณ์ (Enhancement) – คิดค้นเมนูใหม่ๆ ต่อยอดสูตรอาหารเด่นของแต่ละแบรนด์ จัดกิจกรรมการตลาดที่โดนใจ กระตุ้นการกลับมาใช้บริการซ้ำ (Repeat Purchase)

  3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรและเทคโนโลยี (Empower People & Technology) – เน้น “คน” และ “ดิจิทัล” เป็นหัวใจในการสร้างสรรค์ธุรกิจ ตั้งแต่การฝึกอบรมทักษะบุคลากร และใช้ Big Data ยกระดับการวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า

  4. มุ่งมั่นเพื่อความยั่งยืน (Environmental & Social Responsibility) – บริหารจัดการขยะอาหาร ลดปริมาณการสูญเสีย ร่วมมือกับชุมชนและกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม

 

“ในอดีต อาจโฟกัสแค่การเพิ่มสาขา แต่ตอนนี้เราต้องมองภาพ ‘Expansion’ ควบคู่กับ ‘Enhancement & Efficiency’ ด้วยเทคโนโลยีและ Big Data เป็นตัวเร่งทั้งในด้านประสบการณ์ลูกค้าและการจัดการต้นทุน ดังนั้น การขยายสาขาทุกวันนี้ไม่ได้ง่ายแค่หาทำเลดีแล้วเปิด แต่ต้องมีโมเดลร้านที่เหมาะกับชุมชนและสามารถรองรับการสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างคล่องตัว” ไพศาล กล่าว 

 

 

เดินหน้าทวงบัลลังก์ "โออิชิ "
พร้อมปั้น 2-3 แบรนด์ใหม่ รุกตลาดแมส–สายแกลม

นอกจาก “เคเอฟซี” ซึ่งเตรียมลงทุน 1,000 ล้านบาท ขยายอีก 35-40 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ (จากปัจจุบัน 500 สาขา) อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ “โออิชิ” ร้านอาหารญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งในอดีต แต่ยอมรับว่าช่วงหลังอาจเงียบไปบ้าง “เรามั่นใจจะทวงคืนบัลลังก์โออิชิแน่นอน หลังจากตลาดญี่ปุ่นแข่งกันดุเดือดมาหลายปี เราพร้อมเปิดแคมเปญใหม่หลังสงกรานต์ หวังปลุกกระแสให้คึกคักอีกครั้ง” ไพศาลเผย

 

 

ไฮไลต์สำคัญของโปรเจกต์นี้ คือ “ช้าง แคนวาส” ไอคอนิกโซเชียลบรูเฮาส์แห่งแรกของไทย ที่ลงทุนกว่า 300 ล้านบาท โดยเน้นการผสานเบียร์คราฟต์ระดับพรีเมียมเข้ากับบรรยากาศของการพบปะ พูดคุย และสร้างสรรค์ไอเดีย ภายในร้านมีโรงผลิตเบียร์ขนาดย่อม การออกแบบพื้นที่เป็นสไตล์โมเดิร์น และประสบการณ์แบบ Multi-sensory ที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป

 

 

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 แบรนด์ร้านอาหารภายใต้แนวคิดเดียวกัน ได้แก่

  • “สโมสร” ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ที่นำรสชาติและบรรยากาศแบบไทยๆ มาตีความใหม่ให้ทันสมัย เหมาะกับลูกค้าในเมืองและคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบ Modern Thai Society

  • “เลิศเหลา” ร้านเกาเหลาหม้อไฟระดับพรีเมียม โดดเด่นด้วยวัตถุดิบคุณภาพ น้ำซุปสมุนไพร 26 ชนิด และรสชาติที่ “ถึงเครื่อง ถึงใจ” ตอบโจทย์คนรักเนื้อและผู้ที่ชอบอาหารสไตล์ comfort food แบบมีคลาส

 

 


“ปีนี้อาจมีอีก 2-3 แบรนด์ใหม่ในเครือ เน้นทั้งสายตลาดแมส และสายแกลมหรูหรา (Luxury Product) ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจประสบการณ์ ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมเฉพาะตัว”


 

จากขายอาหาร สู่การสร้างแบรนด์มีชีวิต มุ่งเป็น Food Empire ครบวงจรของไทย

 

ท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจอาหารที่ดุเดือด การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของไทยเบฟฯ จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มแบรนด์หรือขยายสาขา แต่คือ การยกระดับแนวคิดใหม่ทั้งระบบ ตั้งแต่โครงสร้าง ไปจนถึงประสบการณ์ของลูกค้า เปลี่ยนจากแนวคิดการขายอาหารไปสู่ “การสร้างแบรนด์ที่มีชีวิต” (Living Brand) ด้วยพอร์ตธุรกิจที่หลากหลาย บริหารอย่างมีเอกภาพ เชื่อมโยงโลกออนไลน์ และออฟไลน์ด้วย Big Data ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

 


"ด้วยความหลากหลายของพอร์ตธุรกิจและกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกันทั้งองค์กร FOODS GROUP พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็น “กลุ่มธุรกิจอาหารชั้นนำของประเทศ” ที่มีครบทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก เบเกอรี่ และแบรนด์ระดับแมส จนถึงไฟน์ไดนิ่ง เราเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับแบรนด์ และประสบการณ์ลูกค้าอย่างจริงจัง คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจอาหารยุคใหม่สู่ความยั่งยืนในระยะยาว” ไพศาลกล่าวสรุป 


 

 

การพัฒนาแบรนด์ร้านอาหารในวัน แบงค็อก เป็นเหมือนโชว์เคสสำคัญของไทยเบฟ ที่ตั้งใจถ่ายทอดภาพลักษณ์แบรนด์อาหารให้ชัดเจนและเข้าถึงใจผู้บริโภคยุคใหม่


“เรามองว่าที่นี่คือพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างแบรนด์ของเรากับผู้บริโภคที่มองหาไลฟ์สไตล์ที่มีความหมาย ผ่านประสบการณ์ที่มีคุณค่า และแตกต่าง" ไพศาล กล่าวทิ้งท้าย

 


 

ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพ “ไทยเบฟฯ” กับความพร้อมในการผนึกกำลังของ 28 แบรนด์อาหารและทีมงานกว่า 30,000 คน โดยมี ไพศาล อ่าวสถาพร ในฐานะแม่ทัพใหญ่ พร้อมสร้างมิติใหม่ให้ธุรกิจอาหารไทยก้าวไปอีกระดับ อาศัยความหลากหลายของพอร์ต การบริหารจัดการแบบ One Team One Goal และการสร้างประสบการณ์ในร้านที่เหนือชั้นกว่า เคียงข้างเมนูอาหารคุณภาพ เพื่อก้าวขึ้นเป็น Food Empire ที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

[อ่าน 2,992]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ชวนร่วม “Maha Songkran 2025” ณ สนามหลวง ดันสงกรานต์ไทยสู่เวทีโลก
สะเทือนโลก! สงกรานต์เซ็นทรัลเวิลด์คว้า "วิกตอเรีย เคียร์ เธลวิก" นางสงกรานต์จักรวาล พร้อม "ฟรีน-เบ็คกี้" คู่ฮอต
ชุ่มฉ่ำรับซัมเมอร์ เติมความสดใสให้ฤดูร้อนกับรอยยิ้มกว้าง ที่โอโซ่ นอร์ธ พัทยา
กรุงศรี พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว
finbiz by ttb แนะ 5 เทรนด์การจ้างงานยุคใหม่ที่ตรงใจทั้งองค์กรและพนักงาน
มหาสงกรานต์ ไอคอนสยาม เริ่มแล้ว!!! ตระการตาขบวนแห่นางสงกรานต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved