ยกระดับธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสานต่อโครงการ “Krungsri ESG Academy” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านธุรกิจไทยสู่แนวทาง ESG อย่างเป็นระบบและนำไปใช้ได้จริง โดยจับมือผู้เชี่ยวชาญและองค์กรพันธมิตร ถ่ายทอดความรู้ สร้างแผนธุรกิจยั่งยืนที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในยุคที่ ESG กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของภาคธุรกิจ
นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีฯ เปิดเผยว่า
“ธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับ ESG และส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานโดยตรง ผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยเฉพาะ SME ที่อาจยังขาดเครื่องมือหรือความรู้ที่เหมาะสม กรุงศรีในฐานะพันธมิตรทางการเงินจึงจัดโครงการ ESG Academy เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ เชื่อมโยงโซลูชันทางการเงิน และสร้างแผนดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและจับต้องได้”
โครงการ “Krungsri ESG Academy 2025” จัดขึ้นตลอดระยะเวลา 5 เดือน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 60 องค์กรจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ทั้งลูกค้ารายใหญ่ SME กลุ่มธุรกิจญี่ปุ่น และสมาชิกสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand)
กิจกรรมในโครงการประกอบด้วย 5 ส่วนสำคัญ ได้แก่
การอบรมเข้มข้นครอบคลุมเรื่อง E (สิ่งแวดล้อม) S (สังคม) และ G (ธรรมาภิบาล)
เวิร์กช็อปเพื่อจัดทำแผนเปลี่ยนผ่านที่ปรับใช้ได้จริง
ลงพื้นที่ศึกษากรณีจริงจากองค์กรที่ประสบความสำเร็จ
ให้คำปรึกษาเฉพาะราย เพื่อผลลัพธ์ที่วัดผลได้
เสริมโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินการตามแผนอย่างมั่นใจ
หัวข้อการอบรมครอบคลุมตั้งแต่มาตรการ Climate Change ที่ส่งผลต่อธุรกิจ วิธีทำ CFO/CFP (Corporate Footprint) การประเมินสถานะความยั่งยืนขององค์กร ไปจนถึงการวางกลยุทธ์ในระยะยาว
กรุงศรีเชื่อว่า ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์หรือข้อปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คือเครื่องมือเพิ่มความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อแนวโน้มผู้บริโภค นักลงทุน และคู่ค้าทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้น
ด้วยความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ โครงการนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยวางรากฐานให้ผู้ประกอบการเข้าใจ ESG อย่างลึกซึ้ง แต่ยังช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่นำไปใช้ได้จริง และยั่งยืนในระยะยาว