TRIS Rating ชี้ผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นต่อ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ ทิพยประกันภัย จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ซึ่งทิพยประกันภัย ร่วมรับประกันภัยอยู่ในวงจำกัด และทิพยประกันภัย มีการประกันภัยต่อที่ครอบคลุม ทั้งการประกันภัยต่อความเสียหายส่วนเกินจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย (Excess of Loss - XoL) การประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย (Facultative Reinsurance) สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ตลอดจนการประกันภัยต่อแบบสัดส่วน (Proportional Treaty) และแบบไม่เป็นสัดส่วน (Non-Proportional Treaty) ซึ่งจะช่วยจำกัดความคุ้มครองของทั้งอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และอาคารที่สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยคู่สัญญาประกันภัยต่อเป็นบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลกที่มีอันดับเครดิตไม่ต่ำกว่า “A” ตามมาตรฐานการจัดอันดับสากล ทั้งนี้ ส่งผลให้ ทิพยประกันภัย ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
จากการประเมินดังกล่าว TRIS Rating จึงคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งส์ให้กับ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และคงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AAA” แนวโน้ม “Stable” ซึ่งเป็นอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดในกลุ่มธุรกิจประกันวินาศภัยให้กับทิพยประกันภัย ตอกย้ำความเชื่อมั่นในฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมของกลุ่มบริษัท
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำอย่างมั่นใจว่า
จากการประเมินของ TRIS Rating ในครั้งนี้ สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยงของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี และสะท้อนภาพความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มบริษัทให้กับนักลงทุนได้เป็นที่ประจักษ์ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท เรายืนยันถึงความทุ่มเทของทุกฝ่ายในบริษัทที่ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน เราจะเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรัดกุมและรอบด้าน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป