Money20/20 เปิดงานวันแรกอย่างคึกคัก คาดอุตสาหกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศของเอเชียโตถึง 23.8 ล้านล้านดอลลาร์
23 Apr 2025

Money20/20 มหกรรมงานรวมฟินเทคชั้นนำของโลก กลับมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังจากความยิ่งใหญ่ด้านความสำเร็จในการสร้างโอกาสของอุตสาหกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีที่มากมายให้แก่ผู้เข้าร่วมงานชั้นนำระดับภูมิภาคและโลก ซึ่งการกลับมาครั้งนี้เพื่อตอกย้ำประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีที่สำคัญของภูมิภาคนี้ โดยจากรายงานล่าสุดเกิดขึ้นบนความร่วมมือกับ FXC Intelligence ที่ได้มีการเปิดเผยเป็นครั้งเเรกวันนี้ ณ งาน Money20/20 Asia ว่าปริมาณของการชำระเงินระหว่างประเทศ (cross-border payments) ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าภายในปี พ.ศ.2575 โดยจะแตะระดับ 23.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 12.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่เเล้ว ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวแซงหน้าค่าเฉลี่ยทั่วโลกและคาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการการชำระเงินระหว่างประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 36.8 ภายในปี พ.ศ. 2575

รายงานภายใต้หัวข้อ ‘How Will Asia’s Money Move in the Future? 2025’s View of 2035’  ซึ่งใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับขนาดตลาดจากบริษัทและผู้นำในอุตสาหกรรมมากกว่า 100 ราย เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม เทคโนโลยี นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายที่คาดว่าจะกำหนดภูมิทัศน์การชำระเงินระหว่างประเทศของภูมิภาคเอเชียในอีกสิบปีข้างหน้า

 

ประเด็นสำคัญที่ได้จากรายงาน:

  • ภูมิทัศน์ของการชำระเงินระหว่างประเทศที่ขยายตัว

ในปี พ.ศ.2567 ทวีปเอเชียแปซิฟิกคิดเป็นร้อยละ 32.2 ของการชำระเงินระหว่างประเทศของร้านค้าปลีกทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ารวม 12.8 ล้านล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลการกำหนดขนาดตลาดของ FXC Intelligence ที่เผยแพร่เป็นครั้งแรกในรายงาน ภายในปี พ.ศ. 2575  คาดว่าภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าถึง 23.8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก และเพิ่มส่วนแบ่งของกระแสเงินทั่วโลกเป็นร้อยละ 36.8.

  • อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยการทำงานร่วมกันและเทคโนโลยี

รายงานพบว่าบริษัทและผู้นำในอุตสาหกรรมร้อยละ 88 มองว่าการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งที่สำคัญมากหรือเรียกได้ว่ามากที่สุดต่ออนาคตการชำระเงินของเอเชีย ร้อยละ 66 เชื่อว่าระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์จะเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่แพ้กัน  ตามมาด้วยร้อยละ 59 เรื่องของกระเป๋าเงินดิจิทัลพร้อมด้วยแรงผลักดันเพิ่มเติมจาก โครงการสกุลเงินดิจิทัล หรือ CBDC, สินทรัพย์ดิจิทัลหรือเหรียญคริปโทฯ ที่มีความมั่นคงสูง หรือ stablecoin, QR code และ Application Programming Interface หรือ API

  • พฤติกรรมผู้บริโภค นโยบาย และนวัตกรรมภาคเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

บริษัทและผู้นำในอุตสาหกรรมระบุว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกว่าร้อยละ 79%  นโยบายด้านกฎระเบียบกว่าร้อยละ 86% และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีกว่าร้อยละ 79% คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต แม้ว่า B2B และ B2C จะยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดอย่างมาก แต่คาดว่าการชำระเงินแบบ B2C จะเติบโตเร็วที่สุดเนื่องจากการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซและบริการสมัครสมาชิกต่างๆ 

  • การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศที่เร่งตัวมากขึ้น

โครงการต่างๆ เช่น Project Nexus ที่เกิดขึ้นเพื่อการจัดแนวทางนโยบายระดับภูมิภาค และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเริ่มสร้างรากฐานสำหรับประสบการณ์ในการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ข้ามประเทศให้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้นำในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าความหลากหลายด้านการใช้งาน หรือประสบการณ์ที่เสาะหาของแต่ละภูมิภาคนั้น อาจทำให้โซลูชันที่โดดเด่นมากๆ ในการตอบโจทย์การใช้งานระหว่างภูมิภาคต่างๆ นั้นเป็นสิ่งอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

“การเติบโตอย่างรวดเร็วกำลังเกิดขึ้นอย่างเห็นได้อย่างมีนัยสำคัญในด้านของการดำเนินธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งในอีกสิบปีข้างหน้าสิ่งสำคัญที่สุดคือการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น” Scarlett Sieber, Chief Strategy และ Growth Officer ของ Money20/20 กล่าวพร้อมเสริมว่า

“อนาคตของภูมิภาคเอเชียไม่ได้ขึ้นอยู่กับรากฐานหนึ่งเดียวที่เหมาะสมกับทุกคนในอุตสาหกรรม แต่ต้องพึ่งรากฐานของวงการทั้งหมดที่เชื่อมโยงกัน และสามารถสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการยอมรับในระดับภูมิภาคได้อย่างแท้จริง”

 

Daniel Webber, Founder และ CEO ของ FXC Intelligence กล่าวว่า

“ภูมิทัศน์ด้านการชำระเงินของภูมิภาคเอเชียกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีความซับซ้อนอย่างมากเช่นกัน ซึ่งรายงานฉบับนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันอย่างตั้งใจระหว่างประเทศและภาคส่วนต่างๆ  อีกทั้งเทคโนโลยีที่กำลังจะเข้ามามีบทบาท เพื่อให้เกิดระบบนิเวศทางการเงินที่ครอบคลุมอย่างแท้จริง การทำงานร่วมกันนั้นไม่ได้เป็นการสะท้อนถึงความท้าทายทางเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้น แต่มันคือโอกาสของความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ในระดับภูมิภาคด้วยที่ยิ่งใหญ่ด้วยกัน”

 

รายงานล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภูมิภาคเอเชียกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ด้วยความหลากหลายของโครงสร้างพื้นฐานที่มีมานาน ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และนวัตกรรมดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยภูมิภาคนี้จึงกำลังเปลี่ยนจากระบบการทำงานแบบเอกเทศมาสู่การร่วมมือกันตั้งเเต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยจะจับมือกันทำงานร่วมมากขึ้น โดยจะพึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากกว่าหนึ่งเดียวเพื่อผลักดันความสำเร็จ และสำคัญที่สุดคือการที่การก้าวสู่ความสำเร็จนั้นจะถูกกำหนดโดยนโยบายที่ชาญฉลาด เทคโนโลยีที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และแนวทางการทำงานร่วมกันในทุกตลาดอย่างแข็งแกร่งและสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างไร้รอยต่อ และลงตัว

ผู้ที่สนใจรายละเอียด หรือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายงานฉบับเต็ม ‘ How Will Asia’s Money Move in the Future? 2025’s View of 2035’ สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่นี่ 

[อ่าน 53]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Trinket ปฏิวัติวงการ Merch หรือสินค้าของเหล่าศิลปิน เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สุดล้ำ
สงกรานต์เซ็นทรัล ยอดผู้ร่วมงานทะลุ 10 ล้านคนทั่วประเทศ การันตี เบอร์ 1 ตลอดกาล
“ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” จับมือ 
“Toby’s Farm” เปิดแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea 

สวารอฟสกี้ เนรมิตความซุกซนของมินเนียนผ่านประกายคริสตัล
รสชาติแห่งความทรงจำในวัยเด็ก เอกะลักษณ์ภูมิใจนำเสนอความร่วมมือพิเศษระหว่างเชฟต่อและเชฟเอ๊กซ์
เข้าร่วม Clan ของคุณ และฟันฝ่าพายุโหม ไปกับชุดการ์ดใหม่ Tarkir: Dragonstorm
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved