ดีป้า ชี้ตราสัญลักษณ์ dSURE ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัย ความสามารถในการทำงาน ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และผ่านการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลจะช่วยขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ระดับ 4.0 เผยเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย โครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับ 4.0
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวบนเวทีเสวนา Data-driven Industry: ผนึกกำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย ในงานแถลงผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคอุตสาหกรรมปี 2567 ว่า ที่ผ่านมา ดีป้า ได้ดำเนินการในเรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล ‘dSURE’ ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้งาน (Safety) ความสามารถในการทำงาน (Functionality) และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) และผ่านการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล แหล่งรวบรวมสินค้า/บริการดิจิทัลจากผู้ประกอบการและผู้ให้บริการดิจิทัลสัญชาติไทยที่มีคุณสมบัติครบถ้วน เป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐาน คุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล และได้รับการรับรองด้วยตราสัญลักษณ์ dSURE
“ดีป้า มองว่า dSURE จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมไทยก้าวไปสู่ระดับ 4.0: Automation เพราะนอกจากจะเป็นการการันตีคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโซลูชันมาใช้บริหารจัดการธุรกิจแล้ว dSURE จะเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีบนบัญชีบริการดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสูงสุด 200% ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐสามารถจัดจ้างได้ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงตามระเบียบพัสดุ พร้อมกันนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการดิจิทัลสามารถเข้าสู่ตลาดภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการลงทุนใหม่ๆ และต่อยอดสู่ตลาดสากล ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th/thailanddigitalcatalog” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ดีป้า มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ พร้อมยกตัวอย่างว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีระบบ PromptPay และ PromptBiz ขณะที่ ดีป้า กำลังดำเนินการในส่วนของแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทยที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเปิดตลาดสู่สากล ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับ 4.0 แต่กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่ายและจะต้องอาศัยการทำงานกับหลายภาคส่วน พร้อมกันนี้ ดีป้า ยังมีแผนที่จะสร้างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลและบล็อคเชนเพื่อนำมาใช้ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลใหม่จะช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเติบโตได้เร็วขึ้น