
Krungthai Global Markets รายงานสถานการณ์ตลาดเงินเช้านี้ว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 33.37 บาทต่อดอลลาร์ จากวันก่อนหน้าที่ 33.64 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักมาจาก:
- ดอลลาร์อ่อนค่า หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีสัญญาณชะลอตัว และความไม่แน่นอนจากการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
- ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หนุนกระแสซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
- นักลงทุนระมัดระวังตัวก่อนประกาศผลประกอบการหุ้นเทคฯ ใหญ่ และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
ตลาดการเงินโลกเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ปิดบวกเล็กน้อย +0.06%
- ตลาดหุ้นยุโรป (STOXX600) ปรับขึ้น +0.53% จากความหวังการเจรจาการค้าจะคลี่คลาย และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่สดใส
- บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 10 ปี ลดลงใกล้ 4.22% จากแรงซื้อบอนด์ พร้อมโอกาสที่เฟดอาจลดดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งในปีนี้
- เงินเยนแข็งค่ากลับเข้าใกล้ 142 เยนต่อดอลลาร์ หนุนจากความกังวลเศรษฐกิจโลก
แนวโน้มเงินบาท: แกว่งตัวในกรอบแคบ พร้อมความเสี่ยงจากการรีบาวด์ของดอลลาร์
Krungthai Global Markets มองเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า น่าจะแกว่งในกรอบ 33.25–33.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีปัจจัยเสี่ยงต้องจับตา ได้แก่:
- ความผันผวนจากผลประกอบการหุ้นเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจ
- ความสัมพันธ์บวกกับราคาทองคำ หากทองคำขึ้น เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าต่อ
เนื่องจากตลาดยังมีความผันผวนสูง นักลงทุนควรใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงหลากหลาย เช่น การทำ Option หรือกระจายการถือครองเงินหลายสกุล เพื่อลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ตลาดอาจผันผวนหนักจาก Trump’s Uncertainty ในอนาคต
[อ่าน 98]