เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยยาวนาน พร้อมยอดขายที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องคิดเลขจากญี่ปุ่นอย่าง “คาสิโอ” โดย เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป (ซีเอ็มจี) ซึ่งมียอดจำหน่ายในประเทศไทยปีละกว่าห้าแสนเครื่อง ครอบคลุมจุดขายของซีเอ็มจีมากถึง 500 จุดทั่วประเทศ โดยมีสินค้าให้เลือกกว่า 270 ประเภท
ไท จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป (ซีเอ็มจี) กล่าวว่า ทางคาสิโอ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องคิดเลข และเครื่องใช้สำนักงาน แบ่งกลุ่มสินค้าออกเป็น 3 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่"
กลุ่ม Consumer เน้นการใช้งานทั่วไป มีฟังก์ชั่นการทำงานพื้นฐานและหน้าจอขนาดใหญ่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ มีฟังก์ชั่นพิเศษเพิ่มเติมที่สามารถเรียกดูการคำนวณย้อนหลังเพื่อตรวจสอบย้อนกลับไปได้ถึง 300 ขั้น และฟังก์ชั่นพิเศษอื่นๆ ที่คู่แข่งไม่มี ราคาตั้งแต่ 400 - 2,000 บาท
กลุ่ม Education เน้นการใช้งานคำนวณด้านคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และการเงิน เจาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา และบุคลากรที่ทำงานสายวิทยาศาสตร์และการเงิน ที่ต้องใช้เพื่อประกอบการเรียนหรือการคำนวณในวิชาชีพ โดยมีฟังก์ชั่นตั้งแต่ 200 - 2,900 ฟังก์ชั่น อีกทั้งยังสามารถแสดงการคำนวณในรูปสมการเหมือนกับในตำราเรียน ราคาประมาณ 2,000บาท
กลุ่ม Solution เครื่องคิดเลขที่มีสามารถพิมพ์การคำนวณลงบนกระดาษเพื่อการนำไปใช้ต่อ และเครื่องพิมพ์ฉลาก (Label Printer) ที่ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความหรือเครื่องหมายที่ต้องการลงบนฉลาก แล้วนำฉลากไปใช้ติดกับวัสดุที่ต้องการ ให้ความสะดวกในการทำงานในสำนักงาน โรงงาน คลังสินค้า โรงพยาบาล ร้านค้าต่างๆ
ปัจจุบัน คาสิโอ ยังครองที่หนึ่งในตลาดมาอย่างยาวนานทั้งในกลุ่ม Consumer และ Education ในส่วนของกลุ่ม Solution ยังคงอยู่ประมาณอันดับ 2-3 ซึ่งเราคาดว่าอนาคตในกลุ่มนี้น่าจะมีโอกาสเติบโตได้อีก"
"ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีทดแทนต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน ที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถคำนวณได้แบบเครื่องคิดเลข เข้ามาเอื้อประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงระหว่าง 3 – 5 ปีที่ผ่านมา มีคู่แข่งใหม่ๆ ในตลาดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์จากจีนที่ผลิตของเลียนแบบเข้ามาค่อนข้างเยอะ จึงอาจมีผลกระทบกับยอดขายบ้าง แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้ายังคงต้องการเครื่องคิดเลขที่มีฟังก์ชั่นและรูปแบบที่สามารถตอบสนองได้ดีกว่า รวมถึงความทนทาน ซึ่งเรามีคุณสมบัติบางอย่างที่ของเลียนแบบไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ในส่วนของ B2S คาสิโอยังคงครองส่วนแบ่งอยู่มากถึง 70%" ไท กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน โคจิ ชินโจ กรรมการผู้จัดการ คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ประเทศไทย กล่าวว่า "เราเป็นพันธมิตรที่ดีกับทาง ซีเอ็มจี มาโดยตลอด และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะเราเชื่อมั่นในการทำการตลาดของของทางซีเอ็มจีที่มีความเชี่ยวชาญและแข็งแกร่งในการทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งช่วยทำให้ยอดขายของคาสิโอเป็นอันดับหนึ่ง"
"ในส่วนของฐานการผลิต เราตั้งเป้าจะย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมาอยู่ที่ไทย 50-60% จากเดิมที่มีอยู่ 35% เพื่อให้คุณภาพสินค้าที่ดีขึ้น โดยทางญี่ปุ่นเอง พยายามหาสินค้าที่เหมาะกับตลาดประเทศไทยด้วยการผลิตสินค้า “เครื่องพิมพ์ฉลาก” ซึ่งมีแป้นพิมพ์ภาษาไทยขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดคนไทยอีกด้วย" โคจิ กล่าวเพิ่มเติม
พร้อมกันนี้ ซีเอ็มจี ในฐานะผู้นำเข้าเครื่องคิดเลข คาสิโอ เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งอันยาวนาน หวังเติบโตมากกว่า 10% จากปีที่ผ่านมาของตลาดรวม มุ่งกลุ่มลูกค้าวัยเรียนและวัยทำงาน ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเผยโฉมเครื่องคิดเลขรุ่น Classwiz ที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชั่นพร้อมสรรพสำหรับการใช้คำนวณด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ พร้อมจัดโปรโมชั่นเพื่อตอบแทนลูกค้า ด้วยแคมเปญ “ซีเอ็มจี คาสิโอ ลุ้นโชคสุดช็อค” เพียงซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องคิดเลขหรือเครื่องพิมพ์ คาสิโอ รุ่นใดก็ได้ของ ซีเอ็มจี จากร้านค้าผู้จำหน่าย แล้วตัดชิ้นส่วนส่งชิงรางวัลตามกติกาที่ระบุไว้ที่จุดขาย ลุ้นรางวัลนาฬิกา CASIO G-SHOCK สวยหรูมูลค่า 5,500 บาทฟรี จำนวน 500 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ - ถึง 15 พฤศจิกายนนี้
จาตุรวงศ์ ผู้อำนวยการแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องคิดเลข เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป (ซีเอ็มจี) กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับแคมเปญนี้ทาง ซีเอ็มจี คาดการณ์ว่า จะได้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยส่งเสริมตัวเลขการเติบโตของแบรนด์ตามที่ต้องการ และยังเป็นการสมนาคุณลูกค้าผู้มีพระคุณ ให้ได้มีโอกาสลุ้นรับรางวัลพิเศษ นอกเหนือจากการได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีและไว้วางใจได้จากทางซีเอ็มจี”