เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามว่า “10 ปีของการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนนั้นเป็นอย่างไร?” คำตอบที่ได้จากสมาร์ทโฟนตระกูล “กาแลคซี่” คือการสร้างนิยามใหม่ให้แก่ผู้ใช้ด้วยการมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ความปลอดภัยที่มากขึ้น รวมถึงการปฏิวัติเทคโนโลยีกล้องบนโทรศัพท์มือถือ และระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ถูกพัฒนาให้ไกลเกินกว่าขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งจะทำได้
ทั้งหมดที่ ซัมซุง กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือ 10 นวัตกรรมที่เกิดขึ้นมาตลอด 10 ปีของสมาร์ทโฟนตระกูลกาแลคซี่ เพื่อเป็นคำยืนยันว่าเราคือผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะมาตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานของผู้ใช้อย่างแท้จริง
สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนทั้งโลกด้วยการเปิดตัว ‘กาแลคซี่ เอส’ ในปี 2010 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ซัมซุงได้นำหน้าจอ Super AMOLED มาใส่ไว้บนสมาร์ทโฟน จนเกิดกระแสนิยมในหน้าจอ AMOLED และนำไปสู่ยุคของสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ จวบจนปัจจุบันนี้ที่หน้าจอ Dynamic AMOLED บนกาแลคซี่ เอส 10 ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่อีกขั้นหนึ่ง กลายเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่พลิกนิยามใหม่ให้กับโทรศัพท์ที่คุณเคยรู้จักไปอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่กาแลคซี่ โน้ต เครื่องแรกถูกเปิดตัวในปี 2011 พร้อมกับปากกาอัจฉริยะ S Pen ก็สามารถเพิ่มขีดจำกัดความสามารถของผู้ใช้ให้กว้างมากขึ้น และในปีที่ผ่านมา S Pen ในซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต 9 มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่อย่างการเชื่อมต่อบลูทูธด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อที่กินพลังงานน้อย เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานในอีกหลายแง่มุมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
สุดยอดระบบรักษาความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนที่ถูกพัฒนาครั้งแรกในปี 2013 บนกาแลคซี่ โน้ต 3 เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตระกูลกาแลคซี่ทั้งหมด
ระบบการจัดการตัวตนเพื่อให้คุณเข้าใช้งานโทรศัพท์ได้อย่างปลอดภัย เกิดขึ้นครั้งแรกในกาแลคซี่ เอส 5 และ กาแลคซี่ โน้ต 4 ซึ่งขณะนั้นเป็นระบบสแกนลายนิ้วมือที่แฝงอยู่บนปุ่มโฮม หลังจากนั้นจึงมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนมาสู่การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริก (Biometric) ที่ทันสมัยขึ้น ได้แก่ การสแกนม่านตา และระบบจดจำใบหน้า
ย้อนกลับไปในปี 2014 กาแลคซี่ เอส 5 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ได้รับการรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP67 ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลสำหรับวัดระดับการกันน้ำและกันฝุ่นของอุปกรณ์ และเทคโนโลยีนี้เอง ได้ถูกพัฒนามาสู่ IP68 ในกาแลคซี่ เอส 7 และรุ่นต่อมา ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่ได้รับการรับรองในขณะนี้
ในปี 2015 กาแลคซี่ เอส 6 คือสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มาพร้อมกับมาตรฐานของแบตเตอรี่มือถือแบบใหม่ ซึ่งจะรองรับการชาร์จแบบไร้สายและชาร์จได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และยังคงถูกพัฒนามาถึงปัจจุบันในรุ่นของกาแลคซี่ เอส 10 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Wireless PowerShare หรือการถ่ายโอนพลังงานให้กับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เมื่อนำมาสัมผัสกัน
นวัตกรรมชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนรูปแบบใหม่ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 บนกาแลคซี่ เอส 6 เป็นบริการที่ปลอดภัยและมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ ซึ่งรองรับทั้งเทคโนโลยี NFC และ MST ทำให้ Samsung Pay กลายเป็นแพลตฟอร์มการชำระเงินบนสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มรูปแบบ
สืบเนื่องมาจาก กาแลคซี่ โน้ต เอดจ์ ที่นำเสนอหน้าจอโค้งเป็นตัวแรกของโลก เพื่อให้ผู้ใช้จับได้ถนัดมือมากขึ้น รวมถึงการแสดงผลบนหน้าจอมีความสมจริงกว่าเดิม ดังนั้นในปี 2017 กาแลคซี่ เอส 8 จึงถูกพัฒนาไปสู่ Infinity Display หรือหน้าจอแบบไร้ขอบที่จะมาช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในการใช้งานให้เต็มอิ่มจุใจ
ระบบผู้ช่วยส่วนตัวของซัมซุง ที่เริ่มใช้ในปี 2017 บนกาแลคซี่ เอส 8 เป็นวิถีแห่งการใช้งานรูปแบบใหม่ ซึ่งผู้ใช้สามารถสั่งงานด้วยเสียง ข้อความ หรือสัมผัส โดยสามารถปรับตัวตามความต้องการของผู้ใช้โดยเรียนรู้กิจวัตรประจำวัน แอพฯที่ชอบใช้ และแม้กระทั่งจดจำข้อมูลและวิธีการที่เรียกใช้ สะดวกสบาย ใช้งานง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกกลุ่ม
ในปี 2018 กาแลคซี่ เอส 9 คือสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มาพร้อมกับเลนส์ Dual Aperture หรือรูรับแสงแบบคู่ ช่วยให้กล้องสามารถปรับให้เข้ากับแสงที่สว่างและแสงน้อยได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาสู่เลนส์ Ultra Wide บนกาแลคซี่ เอส 10 ที่ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การถ่ายภาพมุมกว้าง รวมถึงการถ่ายวิดีโอที่ไม่ต่างจากมืออาชีพ