ทีเส็บ เดินหน้าปั้น "เมืองไมซ์ที่ยั่งยืน" (Sustainable MICE City Destination) นำร่องผนึกเครือข่ายด้วยความร่วมมือ "4 มิติ 5 เมืองใหญ่" พร้อมประเดิมโครงการ "ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก" ตั้งเป้าลดการใช้ขวดพลาสติกในห้องประชุม 8.6 ล้านขวดภายใน  1 ปี คาดจะลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 30 ล้านบาท

            จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์สำหรับการจัดกิจกรรมไมซ์เพื่อความยั่งยืนว่า "ไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียที่สร้างโรดแมปสำหรับการจัดประชุมสีเขียว โดยก่อนหน้านี้ทีเส็บได้ริเริ่มนโยบายการส่งเสริมการจัดงานที่ยั่งยืน (Sustainable Event) ตั้งแต่ปี 2551 และในยุคของการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของชุมชนและการสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ทำให้แนวคิดเพื่อความยั่งยืนถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยรัฐบาลให้ความสนับสนุนการจัดงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการจัดงานประชุมอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพตลอดปี รวมถึงภาคเอกชน บริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ สมาคมและองค์กรนานาชาติที่จัดกิจกรรมไมซ์ อาทิ การจัดประชุมองค์กรและการประชุมวิชาการนานาชาติต่างก็ให้ความสำคัญและเป็นข้อผูกมัดที่จะทำการจัดงานอย่างยั่งยืน โดยระบุการเลือกสถานที่จัดงาน อาหาร เส้นทาง การจัดเลี้ยง และโรงแรมที่มีนโยบายมุ่งสู่ความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อชุมชนและกระจายรายได้"

            สำหรับการผลักดันแนวคิดเพื่อความยั่งยืนถูกนำมาใช้ในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้น ทีเส็บได้ปักหมุดพัฒนาไมซ์ซิตี้ (MICE City) สู่การเป็น "เมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน (Sustainable MICE City Destination) ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยมีข้อตกลงร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ใน 4 มิติ ได้แก่ 1) การพัฒนาศักยภาพ เน้นส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้  จัดอบรม ส่งเสริมด้านข้อมูล 2) การประชาสัมพันธ์ เน้นการเผยแพร่สถานที่ หรือผู้จัดงานที่ดำเนินการ แบ่งปันข้อมูลและ Best Practices 3) การสนับสนุนงาน เน้นผลักดันการจัดงานที่ยั่งยืน (Sustainable Events) โดยผลักดันสถานที่จัดงานให้ได้มาตรฐานความยั่งยืนด้านต่างๆ 4) การติดตามประเมินผล เน้นส่งเสริมการคำนวณเพื่อวัดผลอย่างเป็นรูปธรรม

            จิรุตถ์กล่าวต่อไปว่า จากแนวทางการพัฒนาดังกล่าว ทีเส็บได้ร่วมกับเครือข่ายไมซ์ซิตี้ 5 แห่งข้างต้นริเริ่มโครงการ “ประชุมเมืองไมซ์ งดใช้พลาสติก” เพื่อร่วมกันรณรงค์กิจกรรมส่งเสริม NO Plastic ในพื้นที่และสถานที่จัดงาน ทั้งในห้องประชุม การจัดเลี้ยง รวมถึงอุปกรณ์และบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากในปีที่ผ่านมา 5 เมืองไมซ์ซิตี้นี้ มีโอกาสต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศสูงถึง 34,691,347 คน โดยและในช่วงระยะเวลา 1 ปีนั้นได้ใช้ขวดพลาสติกในห้องประชุมใน 5 เมืองไมซ์ซิตี้นี้กว่า 17 ล้านขวด  ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะมุ่งสนับสนุนการจัดอาหารและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น โดยตั้งเป้าที่จะลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกในห้องประชุมในพื้นที่ลง 50% หรือคิดเป็นจำนวน 8.6 ล้านขวด ซึ่งเท่ากับการช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 638 ตัน (638 Ton CO₂) หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 70,226 ต้น ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 30 ล้านบาท

            นอกจากนี้ ทีเส็บยังเล็งเห็นถึงมุ่งพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ของไมซ์ซิตี้ ทั้งในแง่การพัฒนาสถานที่จัดงาน สถานประกอบการและผู้ประกอบการ เพื่อก่อให้เกิดการจัดงานอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของเมือง ความพร้อมของเมืองในการเป็นเจ้าภาพงานนานาชาติและพัฒนาระบบนิเวศของไมซ์ในพื้นที่ให้มีจิตอาสา รวมถึงการพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองแห่งไมซ์ที่ยั่งยืน ด้วยการให้องค์ความรู้ จัดทำหลักสูตรทั่วประเทศ อาทิ Thailand Sustainable Event Management Standard (TSEMS), Thailand Sustainable Event Professional หลักสูตรมืออาชีพด้านการจัดงานอย่างยั่งยืน (TSEP), Sustainable Event Professional Certificate (SEPC) , ISO20121 Sustainable Event System , Food Waster Prevention , Waste Management รวมถึงการออกแบบ Sustainable Event Guidelines  เป็นต้น

            อนึ่ง ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่ 21 มีจำนวนงานประชุมทั้งสิ้น 193 งาน ของสมาคมส่งเสริมการประชุมระหว่างประเทศ (International Congress and Convention Association : ICCA) และในปี 2561 กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการจัดประชุมนานาชาติเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียนและอันดับ 10 ของโลก มีจำนวนงานทั้งสิ้น 135 งาน จากการจัดอันดับล่าสุดของ ICCA โดยไมซ์ซิตี้ที่อยู่ในรายชื่อของสมาคมการจัดประชุมโลก คือ เชียงใหม่ ติดอันดับ 110 มีจำนวนงานประชุมทั้งสิ้นในปี 2561 จำนวน 25 งาน และพัทยา ติดอันดับ 241 มีจำนวนงาน 11 งาน จากเมืองกว่า 500 เมืองทั่วโลก