ยังคงเดินหน้าขยายสัญญาณ Super 4G อย่างต่อเนื่องสำหรับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค โดยในไตรมาสแรก ขยาย 4G บน 1800 MHz ครอบคลุมพื้นที่ไปแล้วกว่า 50 จังหวัด และ 4G บน 2100 MHz ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
 
          สำหรับในไตรมาส 4 ปี 2558 ที่ผ่านมา ดีแทค ขยายบริการ Super 4G บน 1800 MHz ทั้งหมด 2,200 Site และ 4G บน 2100 MHz 4,000 Site ส่วนไตรมาสที่ 1 ปี 2559  ดีแทคเดินหน้าขยาย Super 4G อย่างต่อเนื่องบน 1800 MHz เพิ่มเป็น 4,450 Site และ 4G บน 2100 MHz จำนวนกว่า 6,000 Site ส่งผลให้อัตราความพอใจเน็ตเวิร์คของลูกค้าสูงขึ้นกว่า 30% ภายใน 3 เดือน

          ปริศนา รัตนสุวรรณศรี ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคขยายบริการ Super 4G ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและจังหวัดอื่น เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น นครสวรรค์ ภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี มากกว่า 50 จังหวัด โดยดีแทคตั้งเป้าขยาย Super 4G บน 1800 MHz เพิ่มเป็น 6,400 Site และ 4G บน 2100 MHz เพิ่มขึ้นเป็น 13,900 site ให้ครอบคลุมทุกอำเภอ 878 อำเภอทั่วประเทศไทย ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทำให้ขณะนี้ ลูกค้าดีแทคสามารถใช้งาน 4G ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ อย่างมั่นใจ” 

          สำหรับการแข่งขันในไตรมาสที่ 2 ปริศนา ให้ความเห็นว่า “ในไตรมาสสองที่จะถึงนี้ คาดว่าการแข่งขันจะดุเดือดขึ้น แต่เรามองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราก็ต่างมองว่าสิ่งที่เรามีอยู่ตอบสนองลูกค้าได้ดีพอหรือยัง ถือเป็นข้อดีที่ทำส่งเสริมให้มีการแข่งขันและเป็นผลดีต่อลูกค้าเอง”

          ด้านพฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบันพบว่า ลูกค้ามีการเลือกแพ็กเกจรายเดือน ด้วยปัจจัยทางด้านราคาเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ อินเทอร์เน็ต และการโทรตามที่ตนเองต้องการ ในส่วนของพฤติกรรมการใช้งานพบว่า มีการใช้อินเทอร์เน็ตเยอะขึ้น แต่การโทรกลับลดลงเหลือเพียงเฉลี่ยวันละ 11 นาที เดือนหนึ่งไม่เกิน 300 นาทีเท่านั้น นั้นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ดีแทคออกแพ็กเกจ super non-stop ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตนเอง  

          ทั้งนี้ ดีแทค ยังเป็นผู้ให้บริการโรมมิ่งรายเดือนที่ให้ลูกค้าสามารถใช้งานทั้งโทรออก รับสาย ส่ง SMS และดาต้า แบบไม่จำกัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา บนแพ็กเกจ  Roam Like Home ในราคา 2,000 บาทต่อ 7 วัน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยม และสามารถแก้ปัญหา ‘บิลช็อก’ ลงได้เหลือเพียง 10% เท่านั้น 

          “ในปีที่ผ่านมาจำนวนลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจนี้เพื่อไปใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 30% ดีแทคจึงได้ขยายประเทศเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการการใช้งานบริการโรมมิ่งบนแพ็กเกจ Roam Like Home ที่ประเทศออสเตรเลีย ประเทศกัมพูชา ประเทศมาเลเซีย และประเทศเมียนมา เป็นที่เรียบร้อย และจะขยายไปประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป” ปริศนา กล่าวเพิ่มเติม 

          นอกจากนี้ ดีแทค พร้อมชูเทคโนโลยีล่าสุด Wifi Calling หรือ VoWifi รายแรกในประเทศไทย ซึ่งเปิดให้บริการใช้ได้จริง ทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานวอยซ์ด้วยสมาร์ทโฟน เมื่อเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wifi เพื่อโทรเข้า โทรออก เปลี่ยนสัญญาณ Wifi ทั่วทุกมุมโลก ให้เป็นสัญญาณโทรศัพท์ดีแทค สามารถใช้งานได้ฟรี โดยปัจจุบัน มีลูกค้าใช้งานจริงแล้วประมาณ 3,000-4,000 ราย
     
          ปัจจุบัน ดีแทค มีลูกค้าระบบเติมเงิน 21 ล้านราย และ ลูกค้ารายเดือนทั้งหมด 4.3 ล้านราย ซึ่งเป็นฐานลูกค้า 4G ประมาณ 3 ล้านกว่าราย ตั้งเป้าลูกค้า 4G เพิ่มเป็น 4.5 ล้านราย ภายในปีนี้ สำหรับแพ็กเกจรายเดือนของดีแทคที่มีราคาต่ำสุดในปัจจุบันคือ 299 บาทต่อเดือน และแพ็กเกจที่มีราคาสูงสุดคือ 2,499 บาทต่อเดือน โดยลูกค้าสามารถใช้งาน 4G ได้มากถึง 100 GB และโทรได้ไม่จำกัด