ผู้เชี่ยวชาญด้านรวบรวมข้อมูลของ Booking.com ได้เปิดเผย 8 เทรนด์การท่องเที่ยวในปีพ.ศ. 2560 โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากข้อมูลจำนวนมหาศาล คำบอกต่อจากผู้เดินทาง ความคิดเห็น สไตล์เดินทาง และข้อมูลเชิงลึก รวมถึงความเข้าใจในภาคอุตสาหกรรมในฐานะผู้นำตลาด และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซสำหรับการเดินทาง ลองมาดูกันว่าผู้เดินทางไม่ว่าจะเป็นเพื่อการพักผ่อนและติดต่อธุรกิจจะได้สัมผัสกับอะไรบ้างในปีที่จะมาถึง
1. ข้อมูลทั้งหลายอยู่แค่ปลายนิ้ว เวอร์ชั่น 2.0
เทคโนโลยีทั้งหลายตัวกระตุ้นทำให้ผู้เดินทางเรียกร้องมากขึ้นและใจร้อนขึ้น ผู้เดินทางกว่าร้อยละ 44 คาดหวังว่าจะสามารถวางแผนการพักผ่อนได้ในเพียงไม่กี่ขั้นตอนผ่านสมาร์ทโฟน ผู้เดินทางมากกว่าครึ่งนึง (ร้อยละ 52) คาดว่าจะใช้แอปพลิเคชั่นด้านเดินทางบ่อยขึ้นในปีพ.ศ. 2560 จะเห็นได้ว่าผู้คนมีการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเพื่อขจัดปัญหาทั้งหลายระหว่างเดินทาง รวมถึงเพื่อค้นหาคำตอบที่ต้องการในทันที และเพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยคำแนะนำและตัวช่วยทางลัดทั้งหลายซึ่งเราอาจไม่เคยคำนึงถึง และในปีที่จะมาถึงนี้เราจะพบการคาดหวังต่างๆ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น การค้นหาตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุด ค้นหาจุด WiFi Hotspot วิธีเที่ยวสถานที่สำคัญโดยไม่ต้องเข้าคิว ไปจนถึงวิธีแก้อาการเจ็ทแล็กระหว่างเดินทาง เรียกได้ว่าฟังก์ชั่นต่างๆ บนเทคโนโลยีรูปแบบพกพาล้วนแล้วแต่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ของเครื่องมือและสมองกล AI จะทำให้แอปพลิเคชั่นด้านเดินทางตัวโปรดก้าวล้ำไปอีกขั้นและแปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่ดีที่สุด พร้อมตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลและจัดสรรสิ่งต่าง ๆ ให้ผู้ใช้ทันทีโดยไม่ต้องถาม ได้ด้วยการอาศัยการใช้งานเทคโนโลยีสนทนาโต้ตอบอันชาญฉลาดเพื่อรวบรวมสไตล์การเดินทาง ในการตอบทุกข้อซักถามและความต้องการได้ในทันที ไม่ว่าผู้ใช้จะเลือกพักที่ใด การใช้งานนี้จะเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ กล่าวได้ว่าเป็นตัวช่วยอย่างไร้รอยต่อที่อยู่เพียงแค่ปลายนิ้ว
2. ไปทำงาน (แล้วเที่ยวต่อ)
กระแส “ทำงานและเที่ยว” (bleisure) กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีพ.ศ. 2560 จะพบว่าเส้นแบ่งระหว่างการทำงานและการพักผ่อนจะหายไป อีกทั้งการให้ความสนใจเรื่องโอกาสเที่ยวระหว่างไปทำงานจะมีเพิ่มมากขึ้น จากผู้เดินทางทั่วโลกกว่าร้อยละ 40 ที่เดินทางเพื่อธุรกิจในปีนี้ ร้อยละ 46 คิดว่าจะเดินทางทริปธุรกิจมากขึ้นในปีพ.ศ. 2560นอกเหนือจากชุดสูททำงานและสไลด์พาวเวอร์พอยท์แล้วผู้เดินทางเพื่อธุรกิจร้อยละ 49 ได้วางแผนยืดระยะเวลาเดินทางเพื่อใช้เวลาเพิ่มเติมสำหรับท่องเที่ยวในจุดหมายนั้นๆ ในขณะที่ร้อยละ 75 ตั้งใจว่าจะทำเช่นเดียวกันหรือบ่อยครั้งยิ่งขึ้นในปีที่จะมาถึง เรียกได้ว่าทริปธุรกิจไม่ใช่การเสียเวลาหรือไม่สะดวกสบายอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นโอกาสดี ๆ ที่จะได้ค้นพบแรงบันดาลใจและความก้าวหน้าทางอาชีพ ถึงกับขั้นที่ว่าผู้เดินทางกว่าร้อยละ 30 ยินดีรับงานที่ได้เงินเดือนน้อยลงแต่มีโอกาสเดินทางทริปธุรกิจเพิ่มขึ้น!
3. จิตวิญญาณนักสำรวจ
โลกนี้ยังมีหลายสิ่งที่รอการค้นพบและปีพ.ศ. 2560 จะเป็นปีที่มีผู้เดินทางจำนวนมากสวมวิญญาณนักสำรวจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยร้อยละ 45 วางแผนที่จะเลือกจุดหมายซึ่งโลดโผนและผจญภัยยิ่งกว่าเดิม ขณะที่ร้อยละ 47 ต้องการไปสำรวจมุมโลกที่เพื่อนๆของเขายังไม่เคยไปมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกล หรือค้นหาสุดยอดเกสต์เฮาส์ในเส้นทางที่ไม่มีใครรู้จัก จากผลสำรวจ เราพบเห็นหลักฐานมากมายของความใคร่รู้ที่เพิ่มขึ้นของผู้เดินทางเพื่อสัมผัสสภาพแวดล้อมที่ยังไม่มีใครค้นพบอย่างแท้จริง ผู้เดินทางกว่าร้อยละ 56 ต้องการเดินทางเพียงลำพังบ่อยขึ้นในปีพ.ศ. 2560 โดยพบได้มากในเหล่าผู้เดินทางจากประเทศบราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา จีน และไทย ทั้งนี้ จุดหมายยอดนิยมที่คนไทยสามารถดื่มด่ำกับจิตวิญญาณนักบุกเบิกได้อย่างเต็มที่ ได้แก่ หมู่เกาะมัลดีฟส์ สหพันธรัฐรัสเซีย มองโกเลีย อินเดีย และฟิลิปปินส์
4. กาย ใจ และจิตวิญญาณเป็นหนึ่ง
ในโลกอันแสนวุ่นวายทำให้ผู้คนจำนวนมากอาศัยการเดินทางเพื่อเป็นการปรับสมดุลความสงบให้แก่ชีวิต ผู้เดินทางมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 48) กล่าวว่าการเดินทางเป็นช่วงเวลาที่สามารถสะท้อนและได้ใช้ไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้นกว่าปกติ โดยในปีที่จะมาถึงนี้จะมีผู้เดินทางจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนจากประเทศไทย จีน และอินเดียให้ความสำคัญกับทริปด้านสุขภาพ ซึ่งเน้นการสร้างความสมดุลแก่กายและใจ ผู้เดินทางร้อยละ 44 สนใจเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ทำสปาเพื่อความผ่อนคลาย และกว่าร้อยละ 38 ต้องการเน้นการเดินทางเพื่อสุขภาพอละความเป็นอยู่ที่ดี ปัจจุบันวิถีคนทำงานที่จะหยุดพักร้อนเฉพาะช่วงปลายปีนั้นลดน้อยลง โดยกว่าร้อยละ 51 ตั้งใจจะเก็บวันลาประจำปีของปีนี้ไปใช้ในปีหน้า ในขณะเดียวกัน ที่พักทั่วโลกต่างเพิ่มข้อเสนอให้ตรงความต้องการเช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ในปีพ.ศ. 2560 เราจะพบที่พักแนว SanctuStays หลายประเภทตั้งแต่วิลลา อพาร์ตเมนต์ รีสอร์ทและอื่น ๆ ซึ่งให้บริการฟรีด้านการทำสมาธิ สปาเพื่อสุขภาพ เวิร์คชอปสุขภาพ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกกลางแจ้งเพิ่มมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรทั้งกายใจและเพื่อค้นพบตัวเอง
5. รักษ์ธรรมชาติ
การเดินทางแบบยั่งยืนอาจมีความหมายแตกต่างกันสำหรับแต่ละท่าน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์นี้ส่งผลให้ทั้งผู้เดินทางและผู้ประกอบการที่พักตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น ในปีที่จะมาถึงนี้ จะมีผู้เดินทางมากกว่าหนึ่งในสาม (ร้อยละ 36) วางแผนที่จะเลือกที่พักซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นผู้เดินทางกว่าร้อยละ 39 สนใจสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ามีผู้คนจำนวนเพิ่มขึ้นที่เสาะหาหนทางที่จะเติมเต็มความต้องการด้านการท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม โดยพวกเขาอาจเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ใช้เวลานานขึ้น ในเส้นทางที่ได้ชมทัศนียภาพมากขึ้น และตัวเลือกการเดินทางที่แตกต่างออกไป การเข้าพักแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบอีกต่อไปแต่เป็นสิ่งที่หลายคนคาดว่าจะปฏิบัติ โดยในเร็วๆ นี้ เราคาดว่าจะเห็นการประชุมเกี่ยวกับวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจโดยมอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่ผู้เดินทางเชิงอนุรักษ์มากขึ้น (ส่งผลให้ผู้เดินทางร้อยละ 41ได้รับประโยชน์ [i]) รวมถึงการนำเสนอมาตรฐานระดับนานาชาติสำหรับที่พักเพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน (ผู้เดินทางร้อยละ 41 ได้รับประโยชน์) อีกทั้งให้ผู้ประกอบการด้านขนส่งแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคาร์บอนออฟเซ็ต (ร้อยละ 26 ได้รับประโยชน์)
6. ความพึงพอใจอันเรียบง่าย
ผู้เดินทางในปี พ.ศ. 2560 จะได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาภายในมากกว่าการได้ครอบครองสิ่งของรูปธรรม จากผลสำรวจพบว่าผู้เดินทางร้อยละ 58 วางแผนใช้จ่ายระหว่างเดินทางปีพ.ศ. 2560 โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่จะได้รับมากกว่าการซื้อสิ่งของ นอกจากนี้ผู้เดินทางต่างสนใจสิ่งของตกแต่งภายนอกน้อยลง แต่กลับเห็นคุณค่าของช่วงเวลาสั้น ๆ และความสุขเรียบง่ายของการเดินทาง มีผู้เดินทางเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่กล่าวว่าบริการผู้ช่วยส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญในการจะเพลิดเพลินกับการเดินทางกล่าวคือความหรูหราด้านต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ไฮเอนด์ที่ใช้ในห้องน้ำนั้นเป็นสิ่งล้าสมัยไปเสียแล้ว เพราะมีผู้เดินทางเพียงร้อยละ 13 ที่อยากให้มีองค์ประกอบแหล่านี้สำหรับการเดินทางของพวกเขาในปี พ.ศ. 2560
7. มนุษยสัมพันธ์
หากเปรียบเทียบเป็นหยินหยางแล้ว แม้เทคโนโลยีจะขาดไม่ได้แต่ก็ควรมาคู่กับการมีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานมืออาชีพ เรียกได้ว่าการได้โต้ตอบกับบุคคลอื่นระหว่างเดินทางนั้นจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในปีพ.ศ. 2560 ผู้เดินทางร้อยละ 42 ยืนยันว่าจะไม่เลือกที่พักที่พนักงานไม่เป็นมิตรหรือไม่ให้ความช่วยเหลือเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันที่พักประเภทเบดแอนด์เบรกฟาสต์และเรียวกังนั้นยังคงได้รับคะแนนสูงจากผู้เข้าพักอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้คนต่างยังคงให้ความเชื่อมั่นกับคำบอกเล่าของผู้ที่เคยไปมาก่อน เพราะมีผู้เดินทางกว่าร้อยละ 40 ยืนยันว่าจะไม่เลือกที่พักที่มีความคิดเห็นเชิงลบมากกว่า 3 รายการ ผู้เดินทางในปีพ.ศ. 2560 เริ่มตระหนักและเข้าใจว่าข้อมูลที่ได้จากมนุษย์ด้วยกันจริงๆ นั้นไม่มีอะไรแทนที่ได้และต้องการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ทั้งหลายเพื่อทำให้ทริปของพวกเขาเป็นความทรงจำที่ตราตรึง ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าในไม่กี่เดือนข้างหน้าการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์จะเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยว ที่จะมาพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีบอทสนทนาเสมือนจริงด้วยบุคลิกภาพอบอุ่น เป็นธรรมชาติ และโต้ตอบได้เหมือนเป็นมนุษย์จริง
8. สู่จุดหมายเหนือจินตนาการ
ปัจจุบันนี้การเดินทางกลายเป็นไลฟ์สไตล์รูปแบบหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเริ่มเห็นผู้คนจำนวนมากขึ้นต้องการสำรวจไปถึงนอกโลก จากผลสำรวจพบว่าผู้คนจำนวนกว่าร้อยละ 44 วาดภาพอนาคตว่ามนุษย์จะสามารถไปพักผ่อนในกาแล็กซี่อันไกลโพ้นหรือใต้ทะเลลึก ซึ่งคาดว่าจะเป็นจริงได้ดั่งที่พวกเขาจินตนาการ การผนึกกำลังระหว่างเทคโนโลยีกับความต้องการที่จะเดินทางไปยังจุดหมายที่ไม่รู้จักส่งผลให้เกิดนวัตกรรมด้านเดินทางจำนวนมากในปีพ.ศ. 2560 แม้การท่องอวกาศยังคงอยู่ในขั้นพัฒนา แต่การดำดิ่งลงไปในความมืดมิดของมหาสมุทรนั้นใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาทุกที รถไฟความเร็วสูงยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีแผนจะเชื่อมต่อเส้นทางให้ผู้เดินทางสามารถไปสู่ดินแดนไกลโพ้นของแอฟริกาตอนเหนือได้ นอกจากนี้องค์การ NASA ก็กำลังพัฒนากระสวยอวกาศซุปเปอร์โซนิกเพื่อการเดินทางทางอากาศที่รวดเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น เงียบขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และที่ต้องพูดถึงคือยานพาหนะที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Tesla ที่มีแผนจะใช้เดินทางจากลอสแอนเจลิสมายังนิวยอร์กในฤดูร้อนของปีที่จะถึงนี้ เทคโนโลยีนำสมัยเหล่านี้ค่อยๆ สร้างจินตนาการของมนุษย์ให้เป็นจริง อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการที่จะออกไปเหนือเส้นขอบฟ้า ไม่แน่ว่าในปีที่จะมาถึง เราอาจได้เดินทางไปยังเขตแดนใหม่ๆ ที่ไม่เคยไปถึงก็เป็นได้
“การได้สัมผัสสิ่งที่ไม่เคยได้ลอง พบปะกับผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงทดสอบขีดจำกัดนั้นคือกุญแจหลักที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเดินทาง และปีพ.ศ. 2560 จะกลายเป็นอีกปีหนึ่งที่ตื่นเต้นอย่างแน่นอน” Pepijn Rijvers ตำแหน่ง Chief Marketing Officer ของ Booking.com กล่าว “ผู้เดินทางในปีพ.ศ. 2560 จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความโหยหาการผจญภัย ทว่าในขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นและการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในขณะที่เรามองหาปฏิสัมพันธ์จากมนุษย์และความคุ้นเคย เราก็คาดหวังให้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทาง รวมถึงทำให้เราได้ใกล้ชิดกับสิ่งที่ต้องได้อย่างรวดเร็วและชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังอีกซีกโลกหรือในระยะใกล้ๆ เราต้องการเจาะข้อมูลให้ลึกยิ่งขึ้นเพื่อค้นหาสัมผัสที่แท้จริงในการเชื่อมต่อตลอดทุกย่างก้าว สำหรับ Booking.com แล้ว เราไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะจุดหมายทั้งหลายในปีพ.ศ. 2560 ทว่าเราคำนึงถึงการเดินทางทั้งหมด รวมถึงช่วยค้นหาวิธีใหม่ๆ เพื่อให้ผู้เดินทางเที่ยวได้อย่างเต็มที่ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่จะตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของพวกเขาเองตลอดทุกช่วงเวลา”