‘อาร์เอส’ อวดผลประกอบการปี 2562 ฟาดกำไร 363 ล้านบาท นำโด่งแม้เศรษฐกิจชะลอตัว ผลจากความยืดหยุ่น ปรับตัวตลอดเวลา และเปลี่ยนแปลงได้เร็ว หาช่องทางทำรายได้ตลอดเวลา ทำให้ธุรกิจมีกำไรและเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด บอร์ดอาร์เอสไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผล 10 สตางค์ XD 4 มีนาคมนี้ เผยแผนธุรกิจหลักปี 2563 สดใส เดินหน้ารุก Entertainmerce ลุยออก New Product สุดยอดนวัตกรรมแห่งปี จับมือพันธมิตร สร้าง New S-Curve ขยายโอกาสทางธุรกิจโดยการมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนต่อเนื่อง พร้อมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ตลอดทั้งปี มั่นใจอาร์เอสพลิกกำไรทำนิวไฮอีกครั้งในปี 2563
วิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,611 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 363 ล้านบาท มาจากรายได้ธุรกิจ Commerce ที่ยังเป็นดาวเด่น ทำรายได้มากถึง 2,012 ล้านบาท โดยผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ในส่วนของลูกค้าธุรกิจ commerce ภายใต้ช่องทางการขายผ่านแบรนด์ RS Mall มีฐานลูกค้าเติบโตกว่า 1.3 ล้านราย ควบคู่กับการออกโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้าตลอดทั้งปี ส่วนธุรกิจสื่อทำรายได้ 1,069 ล้านบาท จากการบริหารสื่อทั้งหมดในมือได้เต็มประสิทธิภาพ 100% โดยนำมาโฆษณาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ commerce ของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจเพลงและอื่นๆ รายได้พุ่ง 529 ล้านบาท
โดยรายได้จากคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2561 จากความสำเร็จในการจัด 2 คอนเสิร์ตใหญ่ ทั้งคอนเสิร์ตแรพเตอร์และดีทูบีในปีที่ผ่านมา ภาพรวมฐานะการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่ง พร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตโดยไตรมาสแรกปีนี้ อาร์เอสประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้นในวันที่ 24 เมษายน 2563 นี้เมื่อรวมเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 รวมเป็นเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2562 เท่ากับ 0.30 บาทต่อหุ้น”
วิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “เมื่อต้นปี บริษัทฯ ได้ประกาศยุทธศาสตร์สำคัญในการเดินหน้าผู้นำด้าน Entertainmerce เต็มตัว นำธุรกิจเติบโตสวนกระแส คาดว่าจะสามารถกลับมาทำนิวไฮได้อีกครั้ง โดยจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรกปี 2563 จากส่วนของธุรกิจ commerce ที่คาดว่าจะสร้าง New S-Curve จากการได้พันธมิตรใหม่ ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมดิจิทัลทีวีของเมืองไทย 2 ราย แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่อาร์เอสซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง ปรับตัวเปลี่ยนแปลงได้เร็ว มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ รองรับกลุ่มสังคมผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อมหาศาล เรานำเสนอผลิตภัณฑ์สุดยอดนวัตกรรมกว่า 100 รายการ
โดยแบรนด์ที่เข้ามาเป็นฮีโร่ใหม่ในไตรมาสนี้ คือ S.O.M. S Balance และ S.O.M. Cordy Tibet & Bhutan รวมถึงสินค้าจากพันธมิตรที่ออกมาต้อนรับเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งโปรโมชั่นโดนใจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ในปี 2563 นี้ เรายังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโต และมองหาโอกาสการเข้าลงทุนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่า และผลกำไรให้กับบริษัทฯ รองรับการหาพันธมิตรช่องทางการขายใหม่ๆ ในส่วนธุรกิจเพลงได้จับมือกับ LINE ออก sticker และเสียงรอสาย และยังจัด 5 คอนสิร์ตใหญ่ตลอดทั้งปี รวมถึงการขายลิขสิทธิ์เพลงและละครของช่อง 8 ให้กับพันธมิตรหลายราย คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มในไตรมาส1 ปี นี้กว่า 60-80 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการหาโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการบริหารทรัพย์สินและลิขสิทธิ์ที่บริษัทฯ มีอยู่ทั้งหมดให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม และจะได้เห็นการสร้างรายได้ส่วนเพิ่มนี้ในไตรมาสถัดๆ ไป”