เปิดร้านกาแฟ เปิดร้านคาร์แคร์ เปิดร้านกุญแจ เปิดร้านกาละแม หรือจะไปเปิดแถวบางแค พอแล้ว... อะไรจะสระแอเยอะขนาดนั้นครับ สวัสดีครับท่านผู้อ่าน พร้อมหรือยังครับ ... ไปพบกับธุรกิจ Startup กันเลย
ทำความเข้าใจลักษณะที่แท้จริงของ Startup Business
ใช้เงินลงทุนเท่าไร เงินลงทุนมาจากไหน ธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็กหรือย่อม ต้องลงทุนกี่คน ต้องแปลกใหม่หรือไม่ ต้องโด่งดังขนาดไหน หลายท่านอาจจะมีคำถามเหล่านี้ เพราะในขณะนี้คำว่า Startup กลายเป็นคำฮิตในหมู่นักธุรกิจยุคใหม่หรือวัยรุ่น Gen Y ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองหลายๆ คน แต่ก่อนจะใช้คำว่า เราเป็น Startup Business
มาทำความเข้าใจลักษณะที่แท้จริงของธุรกิจประเภทนี้กันก่อนนะครับ
จริงๆ แล้วธุรกิจ Startup มีต้นกำเนิดมาจาก Silicon Valley ในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นแหล่งรวมธุรกิจด้านเทคโนโลยีหลายบริษัท ซึ่งบริษัทด้านไอทีทั้งหลายมักจะมีนักลงทุนอยู่เบื้องหลังเพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เร็วแบบก้าวกระโดด เรียกว่าสมชื่อ Start ปุ๊บก็เติบโตแบบ Up-Up-Up กันเลยทีเดียว
พอถึงตรงนี้ Gen Y ไฟแรงหลายคนถึงกับดับไฟเหมือนรายการ Take me out เพราะไม่ได้ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยี แต่เดี๋ยวก่อนครับ ธุรกิจที่ไม่ใช่เทคโนโลยีก็เป็น Startup ได้ครับ
SMEs ธรรมดาๆ ก็เป็น Startup ได้ แต่ต้องมีสิ่งที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งคือ ‘การวางแผนธุรกิจ’ ครับ
แผนธุรกิจที่วางสำหรับ Startup จะต้องมีความละเอียดมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แผนการเงิน การจัดหาเงินทุน แผนการเจริญเติบโต (Growth Strategy) รวมถึงแผนการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน (Differentiation) ตัวอย่างเช่น การเปิดธุรกิจคาร์แคร์ อาจต้องคิดถึงการขยายสาขาภายในประเทศ การขยายสาขาไปต่างประเทศ รวมถึงการขายแฟรนไชส์ การทำธุรกิจร้านอาหาร อาจต้องคิดถึงการขยายไปทำจัดส่งหรือเดลิเวอรี่ รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายโดยใช้แอปพลิเคชันมากกว่าแค่ขยายสาขา
สิ่งสำคัญมากๆ สำหรับธุรกิจ Startup คือ การจัดหาเงินทุน ไม่ว่าจะเป็น Angel Investor หรือเทวดามาโปรด หมายถึง ผู้ที่ให้เงินลงทุนส่วนตัว หากเห็นว่าไอเดียธุรกิจนั้นน่าสนใจ โดยจะลงทุนได้ตั้งแต่หลักหมื่น หลักแสนบาทถึงหลักล้านบาท หรือจะมาจาก Venture Capital (VC) หรือนักลงทุนรายใหญ่ลงทุนในเม็ดเงินมหาศาลอาจถึงหลักสิบล้าน ร้อยล้าน หรือใครจะมองไปถึงการระดมทุนแบบ Crowd Funding ซึ่งเป็นการระดมทุนอีกรูปแบบหนึ่ง โดยคนที่มีไอเดียทางธุรกิจจะนำเสนอไอเดียธุรกิจของตัวเองไว้บนเว็บไซต์หรือช่องทางต่างๆ จากนั้นก็จะมีคนเข้ามาดูแล้วระดมทุนให้ได้เงินถึงเป้าหมาย ในประเทศไทยเองขณะนี้ก็มีหลายหน่วยงานที่สนับสนุนธุรกิจ Startup หลากหลายรูปแบบ ทั้งการตั้งศูนย์อบรมบ่มเพาะไปจนถึงการจัดประกวดไอเดียทางธุรกิจชิงรางวัลมูลค่าสูง
เริ่มเห็นภาพ Startup กันชัดเจนขึ้นแล้วใช่ไหมครับ
SMEs ลองทำการบ้านเพิ่มอีกนิดนะ ถ้าอยากเติบโตอย่างรวดเร็วแบบ Startup
ไอเดียธุรกิจอะไรมาแน่นอนนับจากนี้เป็นต้นไป
ทีนี้ ท่านผู้อ่านอาจจะถามผมต่อว่า “อาจารย์คะ แล้วไอเดียอะไรที่จะเป็น Startup Business ที่ดีล่ะคะ” ในเมื่อไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีเสมอไป ผมขออนุญาตแนะนำ 3 เทรนด์ ให้ท่านไปคิดกันต่อนะครับ
เทรนด์แรก คนแก่ขึ้นทุกวัน แต่ไม่ตาย เอิ่ม...หมายถึงตายช้านะครับ หรืออายุยืนขึ้นนั่นเอง เพราะการแพทย์ การผ่าตัด การดูแลตัวเองของคนสมัยนี้ดีขึ้น ดังนั้น ธุรกิจที่จะมารองรับผู้สูงอายุหรือสังคมผู้สูงอายุที่เรียกว่า Aging Society สดใสแน่นอน เช่น สถานพยาบาล ธุรกิจสุขภาพและความงาม ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และถ้าเรามองไปไกลอีกสักนิดธุรกิจทั่วไปที่เราเห็นๆ กันอยู่ แต่ปรับตัวเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มที่ดี เช่น ฟิตเนสสำหรับผู้สูงอายุ ร้านอาหารคลีนฟู้ดแบบจัดส่ง เป็นต้น
เทรนด์ต่อมา ASEAN มาแล้ว แน่นอนครับ การเป็น Startup Business นอกจากต้องมองการณ์ไกลแล้ว ต้องมองตลาดไกลด้วยครับ ASEAN เป็นภาคบังคับไปแล้วครับ ไม่ทำไม่ได้ ฟันธง! เพราะตลาดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจ ดังนั้น ในแผนธุรกิจต้องมีการวางแผน Go ASEAN ครับ
แล้วจะทำธุรกิจอะไรดี ผมขออนุญาตแนะนำว่า ‘ตลาดอัพเกรด’ งงใช่ไหมครับ นั่นคือตลาดพรีเมียมครับ เพราะข้อมูลจากทุกแหล่งเห็นตรงกันว่าตลาด ASEAN จะปรับตัวเป็นตลาดชนชั้นกลางที่มีระดับสูงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่า Growing Middle Class Consumer สินค้าและบริการจึงต้องปรับตัวตาม สินค้าที่เคยเป็น Mass ก็จะต้องปรับเป็น Premium Mass เพื่อให้ดูดีมีระดับมากยิ่งขึ้น (จนป่านนี้ผมยังหาไอศกรีมกูลิโกะกินลำบากอยู่เลย แหม มันช่างพรีเมียมจริงๆ) บรรจุภัณฑ์ต้องมีระดับ ภาษาที่ใช้ต้องเป็นสากล ถ้าถามผมต่อว่าธุรกิจประเภทใดที่ ASEAN อ้าแขนรับ บอกได้ว่า ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ธุรกิจด้านการบินและธุรกิจท่องเที่ยวครับ
เทรนด์ที่สาม Digital Age อย่าลืมนะครับว่า Startup Business เกิดมาจากธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยี ดังนั้น การเลือกธุรกิจประเภทไฮเทคจะสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ หรือที่ฮอตสุดตอนนี้ Application ครับ (กระซิบว่าแอปมือถือไม่พอแล้ว ต้องแอปบนนาฬิกาหรืออุปกรณ์สวมใส่แล้ว) ถ้าไอเดียดี ทำปุ๊บขยายแล้วขายต่อ รวยเร็วเชียวแหละ
คนมักจะถามว่าพวกเทคโนโลยีพวกนี้คิดยาก พัฒนายาก ผมมีวิธีง่ายๆ มาฝาก อะไรในชีวิตประจำวันที่เราไม่ชอบ นั่นแหละจะเป็นการพัฒนาที่ดี เช่น ผมหาที่เก็บหนังสือการ์ตูนของผมไม่ได้แล้ว (เพราะผมอ่านมาตั้งแต่อนุบาล 2) ดังนั้น แอปอ่านการ์ตูนเป็นทางออกที่ดี ผมไม่ชอบเวลาถามว่ากินอะไรดี แล้วตอบว่าอะไรก็ได้ (ซึ่งมันหาที่ไปไม่ได้) ดังนั้น แอปแนะนำร้านอาหารแบบ Wongnai จึงดังเป็นพลุแตก
จาก 3 เทรนด์ที่ผมกล่าวถึงสามารถจุดประกายแนวคิด Startup Business ที่สดใสได้มากมายนะครับ ลองพิจารณาดู แล้วรีบลงมือครับ เพราะอีกลักษณะหนึ่งของ Startup ก็คือ ไม่มีคำว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม เพราะนักลงทุนต่างๆ ต้องการความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตหรือผลตอบแทนจากการลงทุน ถ้าเราไม่ทำรับรองได้เลยว่ามีคนทำในไม่ช้าอย่างแน่นอน ดังนั้น รีบๆ นะครับ
พรุ่งนี้รวย พรุ่งนี้รวย...!!