สร้างความคึกคักให้กับตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรตั้งแต่ในช่วงต้นปีกันเลยทีเดียว สำหรับ ‘ยันม่าร์’ และสโมสรฟุตบอลชื่อดังจากอังกฤษ ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ ที่ได้ร่วมกันเปิดตัวรถแทรกเตอร์รุ่นลิมิเต็ด ‘YANMAR LIMITED EDITION TRACTOR X MANCHESTER UNITED EF514MU’ เพื่อปรับภาพลักษณ์สู่พรีเมียมแบรนด์ และขยายฐานลูกค้าสู่เหล่าเกษตรกรสาวกผีแดง

         โคจิ ยามาชิตะ ประธานบริหารบริษัท ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด เปิดเผยว่า “ยันม่าร์มีความผูกพันกับกีฬาฟุตบอลมากว่าครึ่งศตวรรษ โดยยันม่าร์ถือเป็นผู้ก่อตั้งทีมฟุตบอล เซเรโซ โอซากา ในเจลีกเมื่อปี 1957 และเป็นทีมที่ ‘ชินจิ คากาวะ’ อดีตมิดฟิลด์ของแมนยูเคยค้าแข้งด้วย ซึ่งยันม่าร์ได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ในปี 2555 โดยต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีและให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันในด้านกีฬามาโดยตลอด และในปีนี้ก็เป็นความร่วมมืออีกขั้นหนึ่งของยันม่าร์และแมนยู ที่มีการออกแบบรถแทรกเตอร์รุ่นลิมิเต็ดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเจาะกลุ่มเกษตรกรยุคใหม่ โดยเราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าที่ 2,000 ล้านบาท”

         ธานัท โฆวัฒนวินฑะ ผู้อำนวยการบริหาร ยันม่าร์ เอส.พี. จำกัด กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรของเกษตรกรในประเทศไทยเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อก่อนใช้รถไถเดินตามติดเครื่องยนต์ในการทำเกษตร ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนมาใช้รถแทรกเตอร์มากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบายและความหลากหลายในการใช้งาน โดยเฉพาะกับเกษตรกรยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อและคำนึงถึงความคุ้มค่า ดังนั้นในปีนี้ยันม่าร์จึงมีแผนที่จะรุกตลาดรถแทรกเตอร์ที่มีขนาดแรงม้ามากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับเกษตรกร ในขณะเดียวกันก็จะปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้แบรนด์ยันม่าร์เป็นพรีเมียมแบรนด์มากขึ้น”

         ในส่วนการทำตลาดนั้น ยันม่าร์ได้ตั้งงบการตลาดไว้ที่ 10% ของยอดขายที่ตั้งไว้ในปีนี้ หรือประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งในสื่อออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อในรายการวิทยุ เช่น รายการลูกทุ่งเน็ตเวิร์ค สื่อกลางแจ้งบนถนนสายหลักทั้งสายมิตรภาพและสายเอเชีย กิจกรรมโรดโชว์เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองขับ โดยจะเน้นพื้นที่การเกษตรที่เป็นพืชไร่เป็นหลัก รวมไปถึงสื่ออื่นๆ ณ จุดขาย รวมไปถึงการใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียมากขึ้นเพื่อสื่อสารและติดต่อกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ด้วยแพ็กเกจบำรุงรักษา 1,500 ชั่วโมง และขยายประกันเป็น 3 ปี 

         “การแข่งขันในตลาดรถแทรกเตอร์ถือว่ามีความรุนแรงไม่แพ้ตลาดอื่น เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดมากขึ้น แต่ยันม่าร์จะไม่ลงไปสู้เรื่องราคาหรือการลดแลกแจกแถมอย่างแน่นอน โดยเราจะเน้นถึงคุณภาพของสินค้า และการให้ความรู้กับเกษตรกร รวมถึงเราจะเน้นการทำตลาดในออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากชาวนาชาวไร่ยุคใหม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไลน์หรือเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้เราสามารถวัดผลได้ชัดเจนมากกว่าการทำตลาดในช่องทางอื่น” ธานัทกล่าว

         ทั้งนี้ ตลาดรถแทรกเตอร์ในประเทศไทยในปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยมีปัจจัยลบจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและปัญหาภัยแล้ง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของเกษตรกร ทำให้ภาพรวมตลาดเติบโตลดลง 10% ในขณะที่ยันม่าร์มีผลประกอบการในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นยอดขายในประเทศ 70% และส่งออก 30% โดยในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 30% หรือคิดเป็นรายได้ที่ 7,000 ล้านบาท