ตอกย้ำกลยุทธ์ “สมาร์ทโฟน x AIoT” และไม่หยุดคิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมและนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุด เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ทุกคนบนโลกได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
มร. เหลย จุน ผู้ก่อตั้ง ประธานบริหารและซีอีโอของเสียวหมี่เผยประกาศสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเสียวหมี่ในอีกสิบปีข้างหน้าหลังจากที่เพิ่งเฉลิมฉลองงานครบรอบ 10 ปีเมื่อไม่นานมานี้
เรียน เพื่อนพนักงานเสียวหมี่
16 สิงหาคมถือเป็นวันครบรอบ 9 ปี และก้าวสู่ปีที่ 10 ของเสียวหมี่สมาร์ทโฟนเครื่องแรกและระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นแรกตามลำดับ ในวันสำคัญนี้ เราอยากจะแบ่งปันเรื่องราวสำคัญให้ทุกคนได้ทราบถึงแผนงานในอีกสิบปีข้างหน้าของเรา
ประการแรกคือ ในอีกสิบปีข้างหน้า เสียวหมี่จะอัพเกรดกลยุทธ์หลักสู่การเป็น “สมาร์ทโฟน x AIoT”
ความฝันของเราตั้งแต่แรกเริ่มคือ "การสร้างโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลก และจำหน่ายในราคาเพียงครึ่งหนึ่งเพื่อให้ทุกคนสามารถซื้อได้"
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นหัวใจหลักของเราในอนาคตอันใกล้นี้ สมาร์ทโฟนจะเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะส่วนบุคคลที่มีความสำคัญที่สุดในตลาด โดยสมาร์ทโฟนจะยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประมวลผลเคลื่อนที่ส่วนบุคคลสำหรับทุกคน ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมที่ทุกคนมีปฏิสัมพันธ์กันและเป็นสิ่งที่จะติดตัวอยู่กับเราทุกคน สมาร์ทโฟนมีความสำคัญต่อความสำเร็จของเราเป็นอย่างมาก และเป็นรากฐานที่สำคัญของโมเดลธุรกิจของเรา
ฉะนั้น ผมอยากจะให้เพื่อนร่วมงานเสียวหมี่ทุกคนได้แสดงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่จะทำให้เราชนะในสมรภูมินี้ได้ ในระหว่างนี้ธุรกิจ AIoT ของเราก็จะสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมสมาร์ทโฟนเพื่ออีโคซิสเต็มของการใช้ชีวิตอัจฉริยะ และขยายขอบเขตของบริษัท
เมื่อการเชื่อมต่ออัจฉริยะผสานเข้ากับชีวิตของเรามากขึ้น ด้วยกลยุทธ์หลักของเรา “สมาร์ทโฟน x AIoT” จะมาช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจหลักของเรา คือ สมาร์ทโฟน รวมเข้ากับระบบนิเวศน์ธุรกิจ AIoT อีโคซิสเต็ม จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกื้อหนุนกันนอกเหนือจากผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจ AIoT ของเราจะช่วยทำให้ธุรกิจสมาร์ทโฟนของเราขยายไปสู่การมีแอปพลิเคชันที่มากขึ้น ชนะใจผู้ใช้มากขึ้น และในที่สุดก็สร้างความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจให้กับโมเดลทางธุรกิจของเรา สิ่งนี้จะช่วยให้ทุกคนในโลกมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านเทคโนโลยีและทำให้เราเป็นผู้นำทางวิถีชีวิตในอนาคตอย่างแท้จริง
ประการที่สอง“แนวทางสามประการ” ที่เราจะยึดมั่นในทศวรรษหน้า
นับตั้งแต่วันแรกจวบจนการก้าวสู่การเป็นบริษัทที่ติดอันดับใน Fortune Global 500 ที่อายุน้อยที่สุด เราได้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราต้องเผชิญกับความท้าทายในทศวรรษหน้า ขณะที่ทั่วโลกก็ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้วย และเราเองก็กำลังเผชิญกับปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมไปถึงการแข่งขันที่รุนแรง เราจะก้าวไปข้างหน้าและประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
ห้าวันที่แล้ว ผมได้เน้นย้ำในสุนทรพจน์ของผมในงานครบรอบ 10 ปีของบริษัทว่าเราจะยึดมั่นใน “หลักการสามประการ” อย่างแน่วแน่ ดังนี้:
เราเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การแสวงหานวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสามารถในการแข่งขันของเสียวหมี่เสมอ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งในราคาที่เข้าถึงได้และเป็นจริงจึงเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้เสมอในทุกวงจรของเศรษฐกิจ และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั้นอยู่ในวัฒนธรรมวิศวกรรมของเรา หลักการทั้งสามนี้รับประกันถึงการเติบโตอย่างมีคุณภาพของเสียวหมี่และเป็นประกาศของเราสำหรับทศวรรษหน้า
ประการที่สามในทศวรรษหน้า เราจะกลับมาเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้งผ่านโครงการพาร์ทเนอร์ชิพ (Partnership Program) และสร้าง “ผู้ประกอบการแห่งทศวรรษใหม่” (New Decade Entrepreneur Program)
นับตั้งแต่วันแรกเสียวหมี่ได้สร้างวัฒนธรรมสตาร์ทอัพและพาร์ทเนอร์ชิพในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเราได้ดึงดูดผู้มีความสามารถจำนวนมากส่งผลให้เกิดทีมสตาร์ทอัพที่ขยันขันแข็งและมีความสามารถสูง กระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วของเราพร้อมกับความสำเร็จที่โดดเด่นตลอดมา
ในทศวรรษที่กำลังจะมาถึงนี้ เราจะกลายเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้งและจะยังคงดึงเอาผู้มีความสามารถเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ด้วยความเป็นเจ้าของที่แข็งแกร่งและความรู้สึกถึงความทุ่มเทนี้เราจะส่งต่อวัฒนธรรมวิศวกรรมของเรา ค่านิยมหลักของเรานั่นคือความจริงใจและความมุ่งมั่น และกุญแจสู่ความสำเร็จในยุคอินเทอร์เน็ต นั่นคือ ความทุ่มเท ความสมบูรณ์แบบ การบอกต่อแบบปากต่อปาก และความคล่องตัว ความสามารถเหล่านี้จะนำเสียวหมี่ไปสู่การแสวงหาพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และเสริมสร้างการขับเคลื่อนของบริษัทเพื่อสานต่อความฝันของเราในอนาคต
ด้วยเหตุนี้เราจึงขยายทีมพาร์ทเนอร์ของเราเพื่อรวมเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยมที่มีความสำนึกในหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ยอดเยี่ยม ประวัติและประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่มีใครเทียบได้ และการรับรู้วัฒนธรรมและค่านิยมหลักของเสียวหมี่ เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์และความเสี่ยงด้วยกัน
ตอนนี้สมาชิกใหม่ของทีมพาร์ทเนอร์นี้ได้สาบานตนและเริ่มตำแหน่งอย่างเป็นทางการดังนี้:
โครงการพาร์ทเนอร์ชิพใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงเป็นการตัดสินใจในระดับองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและค่านิยมของบริษัทตลอดจนแนวคิดทางอินเทอร์เน็ตอีกด้วย ด้วยพาร์ทเนอร์ใหม่ของเรา เราจะพัฒนาทักษะการบริหารจัดการหลักของบริษัท เพิ่มขีดความสามารถเชิงกลยุทธ์และความมีพลังการดำเนินงานใน 10 ปีข้างหน้า นอกจากพาร์ทเนอร์ 5 รายที่เรามีแล้ว เราได้แต่งตั้งอีก 4 รายในวันนี้ ทั้งเก้าทีมนี้จะเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้าและสูงขึ้น
นอกจากโครงการพาร์ทเนอร์ชิพแล้ว เรายังได้ริเริ่ม “โครงการผู้ประกอบการแห่งทศวรรษใหม่” เพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถสูง มีศักยภาพและผลงานดีที่สุดจำนวน 100 คนซึ่งเป็นตัวแทนของพันธกิจ วิสัยทัศน์และค่านิยมหลักของเสียวหมี่จะได้รับการคัดเลือกและให้รางวัลเป็นแพ็คเกจสำหรับผู้ประกอบการรุ่นแรก ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่มุ่งกระตุ้นให้พวกเขาอุทิศตนด้วยจิตวิญญาณของผู้ประกอบการและนำพาบริษัทสู่ระดับใหม่ในทศวรรษหน้า
สุภาษิตกล่าวว่า “ถ้าอยากไปเร็ว ให้ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากไปไกล ให้ไปด้วยกัน” เราต้องมีความสม่ำเสมอในการแนะนำ เสาะแสวงและบ่มเพาะผู้มีความสามารถใหม่ๆ เพื่อสร้างทีมที่มีความสามารถ มีความทะเยอทะยาน มีพลังและมีความรับผิดชอบ เพื่อวางรากฐานสำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเรา เราจะมอบอิสระในการเติบโตและมอบรางวัลให้กับผู้มีความสามารถทุกระดับเพื่อให้เพื่อนร่วมงานทุกคนสามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่
ในทศวรรษหน้าเรามั่นใจว่าเส้นทางแห่งความสำเร็จในอนาคตของเสียวหมี่จะเกิดจากความสามารถใหม่ๆ ของเรา เพื่อนร่วมงานที่รัก เราต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุความหวังและความฝันของเราในอนาคต!
สามารถอ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับเต็มได้ ที่นี่.