กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่งทั่วประเทศ ลงนามความร่วมมือการใช้ 'ระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัล' เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ณ ห้องประชุมสงค์ธนาพิทักษ์ มทร.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมี ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา ร่วมเป็นสักขีพยานและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ 'เปิดโอกาสสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต'
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า
"การจัดการศึกษาเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำได้รับการกล่าวถึงไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทย หากแต่มีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติ และมีการทำสัญญาประชาคมโลกในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ 2573 เพื่อการกำหนดทิศทางการพัฒนาของโลกในช่วง 15 ปีต่อจากนี้
สำหรับเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น เป้าหมายที่ 4 เป็นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งกำหนดไว้ว่า การสร้างหลักประกันว่า ทุกคนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ทั้งนี้ กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ได้มีการดำเนินงานกันเป็นเครือข่าย กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ การได้พัฒนาการจัดการศึกษาในระบบคลังหน่วยกิต และมีการพัฒนา 'ระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัล' (Digital Credit Bank System: DCBS) เพื่อรองรับการดำเนินงานร่วมกัน
นี่จึงเป็นอัตลักษณ์หนึ่งที่สะท้อนความเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้งในด้านการจัดการศึกษาการตอบสนองความต้องการภาคอุตสาหกรรมและตลาดแรงงาน และการแสดงความเข้มแข็งทางด้านเทคโนโลยี
โดยมี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นหลักในการดำเนินงานพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทำให้เกิดความร่วมมือและการลงนามความร่วมมือการใช้ระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลในครั้งนี้ขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์พัฒนาการศึกษาและขยายผลให้กว้างขวางออกไป ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติตามจุดมุ่งหมายของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล"
สำหรับความร่วมมือกันในการดำเนินงานการใช้ระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้
“กลุ่ม มทร. ทั้ง 9 แห่งนี้ จะใช้ความชำนาญ และความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติงานตามบันทึกความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐานการดำเนินงานที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป รวมทั้งจัดหาบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญ เพื่อดำเนินงานตามความร่วมมือนี้ รวมทั้งให้ข้อมูล เพื่อวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้ระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัลที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต” อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าว
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.เกียรติศักดิ์ พันธ์ลำเจียก ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี)ในฐานะที่ปรึกษาโครงการวิจัย 'โครงการพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต' กล่าวเสริมว่า
"มทร.ธัญบุรี ได้มีการดำเนินการจัดการศึกษาในระบบคลังหน่วยกิตมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเดิมใช้ชื่อโครงการว่า การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อพัฒนาบุคลากรภาคอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2562 ได้เปิดการสอนในระบบธนาคารหน่วยกิต จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2563 ได้เปิดรับนักศึกษาระบบคลังหน่วยกิตทั้งหมด 19 สาขาวิชาดังเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2563 สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการดำเนินงาน ทั้งด้านระบบการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบคลังหน่วยกิตและศักยภาพด้านการพัฒนาระบบ Digital Platform ในฐานะของการเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี จึงได้มอบหมายให้ มทร.ธัญบุรี เป็นที่ปรึกษาโครงการพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งผลผลิตของโครงการจะทำให้เกิดระบบคลังหน่วยกิตในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถเชื่อมโยงการเก็บสะสมและการเทียบโอนหน่วยกิตระหว่างหลักสูตร สาขาวิชา และระหว่างสถาบันอุดมศึกษาได้
กล่าวได้ว่า'โครงการพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต'นับเป็นจุดเปลี่ยนและสร้างมิติใหม่ให้เกิดขึ้นกับการจัดการศึกษาของประเทศภายใต้กลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ทั้ง 9 แห่งและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์และสร้างคุณูปการด้านการจัดการศึกษาและการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับบุคคลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สมดังเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต"
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02 549 3697