ทิพยประกันภัย กำไรครึ่งปีแรกกว่า1,052 ลบ. ยกฐานะเป็นโฮลดิ้งส์ขยายการลงทุน-รุกต่างประเทศ
20 Aug 2020

 

บมจ.ทิพยประกันภัย โชว์ผลงาน 6 เดือนแรก ปี 63 สวนกระแสเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำกำไรสุทธิทะลุ 1,052.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% โดยเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,615.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.86 % “ดร.สมพร” เผยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ผลักดันให้เบี้ยประกันภัยโตทุกประเภท พร้อมปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ยกฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งส์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน รุกขยายธุรกิจต่างประเทศ หวังก้าวสู่บริษัทประกันภัยชั้นนำในภูมิภาค

 

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำงวด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2563 ว่า บริษัทฯมีอัตราการขยายตัวของกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างชัดเจนหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีกำไรสุทธิรวมกว่า 1,052.57 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.75 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 953.33 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.59 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 99.24 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.41%

 

สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2563 บมจ.ทิพยประกันภัย สามารถทำเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 11,615.54 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 9,302.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2,312.97 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.86%

 

ดร.สมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า เบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้นเกือบ 25% สืบเนื่องจากบริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพการให้บริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยรับทุกประเภทขยายตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเบี้ยประกันอัคคีภัย เพิ่มขึ้น 7.23% เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง เพิ่มขึ้น 34.07% เบี้ยประกันภัยรถยนต์ เพิ่มขึ้น 35.32% และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด เพิ่มขึ้น 24.45%

 

ขณะที่ฐานะการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 บมจ.ทิพยประกันภัย มีสินทรัพย์รวม 42,503.89 ล้านบาท หนี้สินรวม 34,695.70 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 7,808.19 ล้านบาท

 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ลุกลามและขยายวงกว้างไปทั่วโลกนั้น ดร.สมพร กล่าวว่า บมจ.ทิพยประกันภัย ได้ตระหนักถึงความวิตกกังวลของประชาชนคนไทย จึงได้นำเสนอกรมธรรม์ประกันภัยความคุ้มครองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ที่ครอบคลุมทั้งการดูแลค่ารักษาพยาบาล รวมถึงจะได้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคโควิด - 19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนทั่วไป

 

ขณะเดียวกันยังได้นำนวัตกรรมใหม่มาให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทฯ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิดตัวแอปพลิเคชัน Doctor Anywhere เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถรับการตรวจหาเชื้อ หรือรับคำปรึกษาผ่านระบบออนไลน์ โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา วินิจฉัยอาการในเบื้องต้น รวมถึงบริการนำส่งยาถึงบ้านอีกด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) โดยลูกค้าไม่ต้องออกจากบ้าน สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าอีกทางหนึ่งด้วย

 

นอกจากนี้ บมจ.ทิพยประกันภัย ได้ยึดนโยบายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมารองรับหลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ด้วยการเปิดตัว โครงการ “TIP ปันสุข” รวมทั้งสิ้น 4 ซีรี่ส์หลัก คือ เที่ยวปันสุข , TIP อิ่มสุข , เกษตรเป็นสุข และTIP เติมสุข โดยเปิดตัวด้วยซีรี่ส์แรก เที่ยวปันสุข ที่จะรองรับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ “เราเที่ยวด้วยกัน” ประชาชนสามารถเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัยราคาประหยัดที่สามารถสร้างหลักประกันและความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่อีก 3 ซีรี่ส์จะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องเร็วๆ นี้

 

“ทุกโครงการที่ออกแบบขึ้น ทิพยประกันภัยตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้พี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบให้มีความสุข ความมั่นใจ ความอุ่นใจ มีโอกาสที่ดี ให้สามารถก้าวข้ามผ่านและผ่านพ้นภาวะวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว” ดร.สมพร กล่าว

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น ดร.สมพร กล่าวว่า ปัจจุบัน บมจ.ทิพยประกันภัย กำลังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ภายใต้ชื่อบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการองค์กร ให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดประกันภัยในยุคดิจิทัล (Digital Insurance) โดยบริษัทโฮลดิ้งส์จะเพิ่มโอกาสในการลงทุนในธุรกิจที่สามารถสนับสนุนธุรกิจประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อสร้าง Ecosystem การให้บริการผู้บริโภคอย่างครบวงจร นอกจากนั้น บริษัทโฮลดิ้งส์จะเน้นการขยายธุรกิจไปที่กลุ่มประเทศในอาเซียน และจะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย (Insurance Related) เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับขั้นตอนการดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2563 หรือประมาณต้นปี 2564 ซึ่งภายหลังการปรับโครงสร้าง หุ้นสามัญของบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้นสามัญของ บมจ. ทิพยประกันภัย

 

“การปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการของ บมจ. ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ ภายใต้ชื่อ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จะทำให้มีความยืดหยุ่นในการลงทุนขยายธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานในอนาคตที่ตั้งเป้าจะก้าวสู่บริษัทประกันภัยชั้นนำในภูมิภาค” ดร.สมพร กล่าว

[อ่าน 1,642]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Valentine’s Item! สมูทอีคอลแลปส์หลิง-ออม เปิดตัว “Smooth E x Ling-Orm Exclusive Valentine’s Box Set”
LPN มุ่งสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality
SCG ร่วมกับสภาอุตฯ ชวนผู้ประกอบการสัมผัสนวัตกรรม Low Carbon และเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม 4.0
ไฮเออร์ ประเทศไทย ยิ้มรับปี 68 กวาดรายได้ปี 67 โต 11,000 ล้านบาท
เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรสร้าง มอบอภิมหาโปรโมชั่น ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็งสุดยิ่งใหญ่
ORI โชว์พอร์ต Joint Venture พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี - 119 โครงการ - 1.86 แสนล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved