ที เอ็มโบรคเกอร์ บริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.ทุนธนชาต และ บมจ.เอ็ม บี เค ประกาศรุกธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต หลังประสบผลสำเร็จจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ดำเนินธุรกิจมา 3 ปีมีการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าโตปีละ 50% ขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำติด 1 ใน 10 ของธุรกิจนายหน้าของประเทศภายใน 5 ปี
นางสาวชนิตา ขยันตรวจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ที เอ็ม โบรคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ที เอ็ม โบรคเกอร์ จำกัด (บริษัทฯ)เป็นบริษัทที่ร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น Financial Holding Company ชั้นนำ ถือหุ้น 51% และ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) องค์กรธุรกิจชั้นนำของไทย ถือหุ้น 49% ที่ผ่านมาหลังจากบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินธุรกิจเป็นตัวกลางในการจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันภัย และประกันชีวิตมาประมาณ 3 ปี บริษัทฯ ประสบผลสำสำเร็จในการดำเนินงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 50% มาทุกปี เพราะบริษัทฯ มีองค์กรพันธมิตรที่ดีให้การสนับสนุนในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ประกันอยู่ประมาณ 40 บริษัท เช่น บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และมีนายหน้าอิสระที่ช่วยสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์อีกประมาณ 5,000 ราย โดยในปี 2563 บริษัท มีเบี้ยประกันรับอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดเบี้ยรับที่ค่อนข้างสูงสำหรับบริษัทที่เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้ประมาณ 3 ปี
เพื่อเป็นการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าด้านประกันชีวิต และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครบถ้วนให้กับนายหน้าอิสระ รวมถึงการเล็งเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และผู้ถือหุ้น บริษัทฯ จึงมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจเชิงรุกด้านนายหน้าประกันชีวิตให้มากขึ้นโดยการอาศัยความเชี่ยวชาญของบุคลากรของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพและมีสัมพันธภาพที่ดีกับเหล่านายหน้าประกันภัยที่ทำธุรกิจกับบริษัทฯ มาก่อน รวมถึงการไปสรรหาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายหน้าประกันชีวิตที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณกว่า 30,000 คนซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะสามารถเชิญชวนกลุ่มนี้มาเป็นพันธมิตรให้ได้ประมาณ 30%
โดยปีนี้มีแผนสร้างนายหน้าขยายไปทั่วประเทศ ด้วยวิธีการสร้างนายหน้าในพื้นที่และรับสมัครผ่านเวบไซด์ของบริษัทฯ https://www.tm-broker.co.th/ เพื่อให้มีที่ปรึกษาประกันภัย (T M Advisor) ครอบคลุมทุกจังหวัด และจะใช้ช่องทางนายหน้าอิสระเหล่านี้ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจให้ลูกค้าต่อไป โดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า บริษัทฯ จะสรรหาจากบริษัทประกันชีวิตที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทฯ ที่มีอยู่ 6 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทเอ็ม บี เค ไลฟ์ ประกันชีวิตจำกัด(มหาชน), บริษัทกรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน), บริษัทอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัททิพยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน), บริษัทไทยซัมซุง ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
นางสาวชนิตา กล่าวว่า แม้ในปีนี้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ในภาวะตกต่ำเนื่องจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 แต่เมื่อมีการผลิตวัคซีนออกมาป้องกันโรคได้สำเร็จเศรษฐกิจก็จะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับผู้คนก็จะหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น รวมถึงจะมีการสรรหาผลิตภัณฑ์ด้านการคุ้มครองชีวิตมากขึ้น ซึ่งคาดว่าการที่บริษัทฯ มีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยและประกันชีวีต การมีผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนทั้งผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลและผลิตภัณฑ์ด้านการประกันชีวิตกลุ่มรวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายหน้าอิสระที่จะช่วยบริษัทฯ ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า จะทำให้ ที เอ็ม โบรคเกอร์ เป็นองค์กรหนึ่งที่จะประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทฯตั้งเป้าในการเติบโตของธุรกิจปีละ 50% และมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ของธุรกิจนายหน้าของประเทศให้ได้ภายใน 5 ปี