เมกาบางนา ประกาศเดินหน้าโครงการเมกาซิตี้
31 Jan 2017

         เมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบใหญ่สุดในอาเซียน ประกาศเดินหน้าโครงการ “เมกาซิตี้” โปรเจ็คอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ “มิกซ์ ยูส” พื้นที่กว่า 400 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด สร้างเมืองขนาดใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครบวงจรครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ออฟฟิศสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้งหรือแม้กระทั่งสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์ไสตล์อันหลากหลาย คาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการได้มากถึงกว่าวันละ 250,000 คนทีเดียว 


         โครงการจะแบ่งออกเป็นหลายเฟส ทั้ง โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าและอื่นๆ ภายใต้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 67,000 ล้านบาท โดยศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เริ่มดำเนินการส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาทซึ่งจะเพิ่มร้านอาหารชื่อดังอีกถึง 40 ร้าน รวมถึง “ท็อปส์ ฟู๊ด แอนด์ ไวน์ ซูเปอร์มาร์เก็ต” ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับการช้อปปิ้งที่ครบครัน อีกทั้งอาคารจอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง 1,200 คัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณเดือนธันวาคมปีนี้ 


         คริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ (บริษัท เอสเอฟดีเวลอปเมนท์ จำกัด) กล่าวว่า “โครงการเมกาซิตี้ จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ที่พรั่งพร้อมสำหรับทุกคน ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียวกันตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตนอกเหนือจากเป็นสถานที่ช้อปปิ้ง ยังเป็นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ และสถานที่มอบความสนุกสนานและความบันเทิงได้อย่างครบวงจร”

 

 

         “เรามีโครงการจะสร้างที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับคนกว่า 50,000 คน  อาคารสำนักงานรองรับคนกว่า 30,000 คน โรงแรม 2 แห่ง และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าและชุมชนโดยรอบ” 


         ขณะนี้ทางกรรมการผู้จัดการของศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เปิดเผยถึงความต้องการในการเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการจะร่วมลงทุนในแผนพัฒนาระยะยาวในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาคารสำหรับที่อยู่อาศัย สำนักงานออฟฟิศ โรงแรม หรือแม้กระทั่งรูปแบบอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ

 


         เมกาบางนา คือ ศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่อยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (Central Business District: CBD) ที่เพียบพร้อมไปด้วยแบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล แฟลกซิปสโตร์ และร้านอาหารยอดนิยมจำนวนมาก การยกเอาร้านค้าสุดอินเทรนด์จากใจกลางเมืองมามอบความสุขให้กับลูกค้าโซนนอกเมืองนับเป็นแนวคิดการพัฒนาศูนย์ฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2555 เมกาบางนาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบของไทยและนานาชาติ และมีผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ มากถึง 3.5 ล้านคนต่อเดือนซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ทุกปี และคาดว่าการเพิ่มอาคารจอดรถ7 ชั้น (แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2560)ประกอบกับการสร้างถนนวงแหวนภายในเมกาบางนาที่จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้จะเสริมสภาพคล่องของการจราจร และเพิ่มพื้นที่จอดรถให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 


         “ส่วนต่อขยายนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการภายในศูนย์ฯ ได้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนเราตื่นเต้นที่จะบอกกับลูกค้าของเราว่าเราได้คัดสรรร้านอาหารชื่อดังมากมายหลายแบรนด์ที่มักจะเห็นแต่ในย่านใจกลางเมืองเท่านั้น ซึ่งจะพากันตบเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่กับเรา อาทิเช่น Dean & Deluca, Godfather, Bon Chon และStarbucksที่จะขยายร้านไปยังส่วนต่อขยายใหม่นี้เพิ่มอีกด้วย” 


         ทั้งนี้ ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ อีก 2 เฟส ซึ่งวางไว้เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สันทนาการ กีฬา และการศึกษา อยู่ในระยะของการวางแผนและศึกษารายละเอียด โดยจะเปิดเผยข้อมูลได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งนี้เมกาบางนาได้แต่งตั้งให้ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนในการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งแรกของโครงการเมกาซิตี้ 

 


         สุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมกาบางนาตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ ถนนบางนา-ตราดและพื้นที่ใกล้เคียงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจำนวนประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งมีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พัฒนาขึ้น เชื่อมต่อทั้ง ที่พัก และโครงการศูนย์อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ รถไฟฟ้ารางคู่บางนา-สุวรรณภูมิ ที่เป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ถนนบางนา-ตราดกลายเป็น “ฮับ” ยุทธศาสตร์สำคัญ ศูนย์รวมของการเดินทาง และการขนส่งในอนาคต ดังนั้นโครงการเมกาซิตี้ จึงเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง โดดเด่นเหนือชั้น และพร้อมจะตอบโจทย์ความต้องการในทุกรูปแบบทั้งการอยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และเป็นแลนด์มาร์กสำหรับการช้อปปิ้งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง”
 

         นพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)ได้กล่าวว่า “พื้นที่ย่านบางนาเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านจัดสรร และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ เรามองว่าเมืองที่สมบูรณ์แบบแห่งนี้ ยังต้องการศูนย์การค้าที่แข็งแกร่ง และพื้นที่คอมมูนิตี้สำหรับการพักอาศัย และอาคารสำนักงาน เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและครบวงจรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งโครงการเมกาซิตี้จะตอบโจทย์ได้ครบทั้งหมด และเรายังคงเดินหน้าลงทุนอย่างเต็มที่กับพื้นที่ย่านนี้ และพร้อมที่จะร่วมทุนกันพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ และเห็นโอกาสในทำเลยุทธศาสตร์แห่งนี้เหมือนกับเรา”
 

         โทมัส มาล์มเบิร์ก ผู้อำนวยการศูนย์การค้า อิคาโน่รีเทล เอเชีย ได้กล่าวว่า “การได้รับความนิยมอย่างดีเยี่ยมของศูนย์การค้าเมกาบางนา คือ เหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีทั้ง อาคารสำนักงาน โรงแรม และตึกที่พักอาศัย รวมไปถึงส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย ศูนย์การค้าและอิเกียคือธุรกิจหลักของเรา แต่เราเชื่อมั่นว่า เมกาบางนามีศักยภาพที่จะเป็นได้มากกว่าแค่ศูนย์การค้า เรามองภาพว่า เมกาบางนา และอีเกียบางนา จะเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้สมัยใหม่ และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นก้าวแรกในการพัฒนาโครงการเมกาซิตี้”


         สำหรับนักลงทุน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการเมกาซิตี้ ทางโครงการมีรูปแบบทั้งการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) และ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา

 

 

[อ่าน 2,385]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Valentine’s Item! สมูทอีคอลแลปส์หลิง-ออม เปิดตัว “Smooth E x Ling-Orm Exclusive Valentine’s Box Set”
LPN มุ่งสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality
SCG ร่วมกับสภาอุตฯ ชวนผู้ประกอบการสัมผัสนวัตกรรม Low Carbon และเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม 4.0
ไฮเออร์ ประเทศไทย ยิ้มรับปี 68 กวาดรายได้ปี 67 โต 11,000 ล้านบาท
เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรสร้าง มอบอภิมหาโปรโมชั่น ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็งสุดยิ่งใหญ่
ORI โชว์พอร์ต Joint Venture พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี - 119 โครงการ - 1.86 แสนล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved