บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด แนะธุรกิจใช้ WebXR สร้างช่องทางการตลาดใหม่ที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของธุรกิจ ด้วย WebXR ธุรกิจจะสามารถเปิดกว้างให้ลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่ ทั้งการโต้ตอบแบบ 3 มิติบนออนไลน์ หรือการได้ประสบการณ์เสมือนจริงหรือ Virtual Reality บนโทรศัพท์มือถือ
อิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจในรูปแบบดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจจำนวนมากต้องแข่งขันเพื่อแย่งชิงความโดดเด่นบนโลกออนไลน์ ด้วยการใช้เท็มเพลตของเว็บไซต์มาตรฐานเพื่อทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เนื่องจาก มีช่องโหว่ที่ลูกค้าบางรายอาจพลาดโอกาสในการมีส่วนร่วมกับธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์และหนึ่งในวิธีที่สามารถลดช่องโหว่ได้ คือ “โชว์รูมเสมือนจริง” หรือ Virtual Showroom
“โชว์รูมเสมือนจริง” คือช่องทางนวัตกรรมการตลาดที่ใช้พื้นที่เสมือนแทนหน้าร้านจริง เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่จำลองประสบการณ์ในโชว์รูม ช่วยให้ลูกค้าสามารถดูสินค้าได้แบบ 3 มิติ และยังสามารถทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับตัวแทนขายทางออนไลน์ได้อีกด้วย ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะสามารถโต้ตอบโดยตรงผ่านเว็บเบราว์เซอร์ รวมถึงสามารถชมผลิตภัณฑ์ผ่านจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ (HMD)
ข้อดีของ Virtual Reality หรือ VR นั้นช่วยให้ผู้บริโภคอยู่ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่สร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ทุกคนสามารถโต้ตอบกับวัตถุเสมือนได้ จากการศึกษาพบว่าการโต้ตอบช่วยเพิ่มการจดจำ และด้วยการใช้ VR ผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนได้โต้ตอบบนออนไลน์จะน่าจดจำมากกว่าโฆษณาออนไลน์ทั่วไป
VR ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้ามีรูปแบบใหม่ในการโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ได้ด้วย โดย HMD สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้ากำลังมอง หรือสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ ทั้งในแง่ของระยะเวลาในการโต้ตอบกับวัตถุ รวมถึงประเภทของวัตถุที่ลูกค้าสังเกต ชุดข้อมูลเพิ่มเติมนี้จะเสริมกับเมตริกของเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้ว (จำนวนคลิก และระยะเวลาในการชม) จนสามารถพัฒนาโปรไฟล์ลูกค้าที่ลงลึกได้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจบรรลุวัตถุประสงค์ของการตลาดเรื่องการตอบสนองความต้องการของลูกค้า และด้วยการสร้างโปรไฟล์ลูกค้า ธุรกิจจะสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของแต่ละคนเข้ากับแบรนด์โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมดังกล่าว
สำหรับธุรกิจ VR มีข้อดีที่ชัดเจนเรื่องการเพิ่มยอดขาย จากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ (Quality Lead) ที่มีโอกาสซื้อสูงได้มากขึ้นบนช่องทางการตลาดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ รวมถึงการได้มาซึ่งชุดข้อมูลใหม่ ทำให้ธุรกิจมีข้อมูลเชิงลึกของลูกค้ามากขึ้น ในขณะเดียวกัน ข้อดีสำหรับลูกค้าจะกลายเป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีกว่าเดิม เพราะสามารถโต้ตอบกับมุมมอง 3 มิติของผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ยังมีส่วนร่วมกับร้านเสมือนจริงได้คล้ายกับหน้าร้านจริงที่คุ้นเคย
ABeam Virtual Showroom โซลูชั่นโชว์รูมเสมือนจริงของ ABeam จะมุ่งเน้นส่งมอบคุณค่าไปที่ประเด็นสำคัญ 2 ประการ คือการเป็นแอปพลิเคชัน WebXR ที่แสดงโชว์รูมเสมือนจริงแบบโต้ตอบได้ (Interactive Virtual Showroom) เพื่อปรับปรุงการมีส่วนร่วมของลูกค้าบนเว็บไซต์ และการเป็นกลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือ Lead ที่แน่ใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถคว้า Quality Lead ที่มีโอกาสซื้อสูงด้วยโชว์รูมนี้ และสามารถแบ่งกลุ่มหรือเซ็กเมนต์เพื่อทำแคมเปญ retargeting แบบกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ดีขึ้น
“การออกแบบ Virtual Showroom ของเราจะมุ่งเน้นที่ทำให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ และที่เวลาใดควรเก็บรายละเอียดของลูกค้า เพื่อให้ Lead ของธุรกิจเป็น Quality Lead ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง” ฮาระ กล่าวในตอนท้าย