ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC) เดินหน้าตามแผนธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมายยกระดับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและแลกเปลี่ยนข้อมูลของไทยและระหว่างประเทศเพื่อให้ทัดเทียมนานาประเทศ สอดรับนโยบายดิจิทัลอีโคโนมีของภาครัฐ เดินหน้าผุด “เอมส์ แบงคอก ดาต้า เซ็นเตอร์” ย่านสาทร รองรับยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นที่มีความสำคัญ ผนึกกำลังบีเคนิกซ์ผู้ให้บริการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลชั้นนำของไทย เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ในการใช้บริการที่รวดเร็วและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น (SYMC) ผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมทั้งในประเทศ ระหว่างประเทศและเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าองค์กร เราตั้งเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้นและยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อสร้างฐานการเติบโตในอนาคต โดยล่าสุด SYMC ลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ ‘AIMS Bangkok’ ตั้งอยู่ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญย่านสาธร ตึกสมูทไลฟ์ ทาวเวอร์ (Smooth Life Tower) ที่ร่วมทุนกับไทม์ดอทคอม (TIME dotCom) หรือ TIME ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ของมาเลเซีย โดยเล็งเห็นความสำคัญของการขยายตัวการใช้งานด้านบริการอินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการที่จะพัฒนาศักยภาพของบริการเราให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เราจึงตัดสินใจในการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบีเคนิกซ์ เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการทางด้านอินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งในระดับบริษัทและระดับประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์อีกระดับในการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีความรวดเร็วและมีเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากบีเคนิกซ์เป็นผู้ให้บริการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Exchange Point รายแรกของประเทศไทยที่มีความเป็นกลาง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ มีลูกค้าชั้นนำมากมาย อาทิผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ให้บริการเนื้อหา (OTT) ในขณะที่ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น เป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำ ให้บริการด้วยโครงข่ายคุณภาพสูง มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ และเอมส์ ดาต้า เซ็นเตอร์ เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่มีประสบการณ์และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมายาวนานในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ โดยมีลูกค้าสำคัญอาทิ OTT และผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำในระดับภูมิภาค ดังนั้นความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าของเราทุกฝ่ายต่างได้รับประโยชน์สูงสุดร่วมกัน ทั้งในด้านคุณภาพในการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่จะดียิ่งขึ้น การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รวดเร็วขึ้น โดยไม่จำกัดเพียงแค่การใช้งานในกรุงเทพฯ แต่ยังขยายไปยังพื้นที่ในหลายจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมของภาครัฐ และสนับสนุนการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อที่สำคัญ ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”
ด้าน นายสหัสชัย คงจุ้ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเคนิกซ์ จำกัด (BKNIX) กล่าวว่า “เราเป็นผู้ให้บริการศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet Exchange Point: IXP) ที่เป็นกลางแห่งแรกในประเทศไทย ให้บริการด้วยเทคโนโลยี Layer 2 ใช้อุปกรณ์ระดับ Carrier-class ที่มีคุณภาพระดับสากล โดยในความร่วมมือครั้งนี้กับซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่นและเอมส์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ทางบีเคนิกซ์มีความยินดีอย่างยิ่ง เนื่องจากเราสนับสนุนให้มีการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนทราฟฟิก (Traffic) ด้านอินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้บริการให้กับลูกค้า ลดความซับซ้อนในการเชื่อมต่อ
อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้บริการวงจรอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางรองรับการเติบโตของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคอาเซียนได้ เพราะประเทศไทยมีความน่าสนใจและมี และช่วยดึงให้ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและผู้ให้บริการเนื้อหา (OTT) เห็นถึงความพร้อมของเราในการมาใช้บริการเชื่อมต่อผ่านศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลประเทศไทย นอกจากนี้เรายังเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับปริมาณการจราจรของข้อมูลและทราฟฟิกได้สูงในระดับ Tbps และจัดเตรียมระบบบริหารจัดการ IXPManager ที่เชื่อมโยงระบบบริหารจัดการถึงกันและมีโครงข่ายเชื่อมต่อถึงทุก POP (Point of Presence) ทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลของลูกค้าในแต่ละพื้นที่เป็นไปเสมือนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
เราเชื่อมั่นถึงเรื่องคุณภาพและการให้บริการของซิมโฟนี่ ที่มีมายาวนานกอปรกับความมีชื่อเสียงของ เอมส์ ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีความพร้อมและสร้างคุณภาพมาตรฐานด้านการบริการและความปลอดภัยที่มีชื่อเสียงในระดับอาเซียน เราจึงมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้สมาชิกของเราได้รับประสบการณ์ใหม่ด้วยประสิทธิภาพในการใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นและเป็นการดำเนินตามแผนธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวด้านบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในประเทศไทยและอาเซียนที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต”