ธนาคารกรุงไทย 'จับมือ' UNDPประเทศไทย และมูลนิธิรักษ์ไทย จัดโครงการ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า เพื่อปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยหลังจบโครงการสามารถระดมทุนกว่า 2.7 ล้านบาท ผ่านการบริจาคแบบระบบ Crowd Funding โดยร่วมมือกับ BIOFIN ในการรับบริจาคด้วย E-Donation เพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กในการจ้างเก็บขยะในทะเลและช่วยเหลือคนในชุมชนเกาะเต่าให้กลับมาแข็งแกร่ง เตรียมพร้อมรับนักดำน้ำและนักท่องเที่ยว จากทุกมุมโลก ที่จะกลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายเป็นปกติ
นายเรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย หรือ UNDP ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการการเงินเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ The Biodiversity Finance Initiative (BIOFIN) ภายใต้การดำเนินงานของ UNDP ประเทศไทย ธนาคารกรุงไทยและมูลนิธิรักษ์ไทย เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมมือดำเนินโครงการ Koh Tao, Better Together เพื่อนำรายได้จากการระดมทุนมาพัฒนาสิ่งแวดล้อมบริเวณเกาะเต่าและฟื้นฟูความยั่งยืนสู่ชุมชน
“โครงการนี้ตั้งเป้าระดมทุน 1.9 ล้านบาท เพื่อสร้างอาชีพให้คนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กในเทศบาลตำบลเกาะเต่า จำนวน 200 คน ทำความสะอาดและเก็บขยะโดยมีค่าจ้างเดือนละ 3,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2563 - วันที่ 31 มกราคม 2564 รวมทั้งการปลูกจิตสำนึกให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสมดุลในการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติอย่างยั่งยืน”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภารกิจสำคัญของธนาคารกรุงไทย คือการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการสร้างการเติบโตของธุรกิจเพื่อก้าวสู่ Digital Banking เต็มรูปแบบ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุค Technology Disruption บนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารมีความยินดีที่การระดมทุนผ่าน QR Code ครั้งแรกของ UNDP ประเทศไทย ผ่านกรุงไทย e-Donation ประสบความสำเร็จ จากเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.9 ล้านบาท แต่สามารถระดมทุนรับบริจาคได้ถึง 2.7 ล้านบาท รวมถึงการลงพื้นที่เกาะเต่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย โดยประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนที่เข้าร่วมในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมถึงเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ
นายไชยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า เปิดเผยว่า เกาะเต่าได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำอันดับต้นๆของโลก ทำให้แต่ละปี มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมธรรมชาติใต้ท้องทะเล ไม่น้อยกว่า 5 แสนคน โดยในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การท่องเที่ยวบนเกาะเต่าได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทำให้ชุมชนขาดรายได้ แต่ผลดีที่เกิดขึ้นคือ ธรรมชาติใต้ท้องทะเลได้ฟื้นตัว กลับมาสวยงามอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2561 โครงการ BIOFIN ได้เข้ามาช่วยพัฒนา ฟื้นฟูและดูแลความหลากหลายทางชีวภาพบนเกาะเต่า และล่าสุดโครงการ Koh Tao, Better Together ซึ่งนอกจากจะช่วยชุมชนให้พ้นวิกฤติแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมบนเกาะเต่าสะอาดสวยงามและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
UNDP ประเทศไทย โดยมูลนิธิรักษ์ไทยจะนำเงินบริจาครวมกว่า 2.7 ล้านบาท ไปจ้างงานคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปจนเหลือศูนย์ทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดบริเวณชายหาดและเก็บขยะในทะเล เป็นการช่วยเหลือดูแลครอบครัวของคนขับเรือท่องเที่ยวขนาดเล็กในระยะสั้น เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งคุณภาพชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจ ที่จำเป็นต่อชีวิตมนุษย์โดยการร่วมมือกับ BIOFIN นี้ถือเป็นการลงทุนในความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งมีส่วนโดยตรงต่อการลดความยากจน สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเต็มรูปแบบ Sustainable Develop Goals - SDG ขององค์กรสหประชาชาติ ด้วยการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ
พร้อมกันนี้ 3 พันธมิตรพร้อมผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมลงพื้นที่เกาะเต่า เพื่อร่วมสำรวจปัญหาและร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day โดยได้รับความร่วมมือจากดารานักแสดงชุมชนในพื้นที่เกาะเต่า ร่วมเก็บขยะ ทำความสะอาดชายหาด กำจัดและคัดแยกขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในปีนี้กรุงไทยมีโครงการนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาแปรรูปเป็นเส้นใยเพื่อผลิตเสื้อ #UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า ซึ่งขวดพลาสติกจำนวน 8 ขวด สามารถผลิตเสื้อได้ 1 ตัวโดยตั้งเป้าลดปริมาณขยะกว่า 160,000 ชิ้นอีกด้วย รวมถึงกรุงไทยได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับน้องๆ นักเรียนที่โรงเรียนบ้านเกาะเต่า ด้วยกิจกรรมการให้ความรู้ด้านการเงิน
เป็นที่ทราบดีว่าเกาะเต่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นจุดหมายปลายทางของนักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกด้วยความสวยงามและความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศใต้ทะเลมีสถานที่ท่องเที่ยว และการบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน ธนาคารกรุงไทยเล็งเห็นว่า หากสร้างชุมชน และเศรษฐกิจของเกาะเต่าให้เข้มแข็งไปพร้อมๆ กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ได้ จะก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้เกาะเต่าเป็นหนึ่งในชุมชนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแรงและยั่งยืนต่อไป
ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ธุรกิจเติบโตควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ บนพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ด้านสิ่งแวดล้อม โครงการ Koh Tao, Better Together ได้มีส่วนร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล ปลูกฝังให้มีความรักในธรรมชาติและตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากร ด้านสังคมส่งเสริมสร้างอาชีพให้คนในชุมชน ส่งพนักงานลงพื้นที่ให้ความรู้ทางการเงิน พร้อมเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง ด้านธรรมาภิบาล ธนาคารยึดมั่นการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใสการระดมทุนผ่านระบบ e-Donationในครั้งนี้สามารถตรวจสอบได้ ข้อมูลการบริจาคจะถูกส่งเข้าระบบลดหย่อนภาษีของกรมสรรพากรโดยอัตโนมัติ และธนาคารได้ร่วมสนับสนุนโครงการในฐานะผู้ร่วมบริจาคที่ช่วยตอบโจทย์ซึ่งเป็นThe Global Goals ในด้านการพัฒนาสุขภาพของของสิ่งมีชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจ การใช้นวัตกรรม อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน การทำให้ชุมชนและเมืองมีความยั่งยืนการตื่นตัวด้านภูมิศาสตร์ การดูแลระบบนิเวศใต้ทะเล และการร่วมมือกับพันธมิตร โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะทำให้ชุมชนเกาะเต่า มีความมั่นคงและยั่งยืน ตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ
โครงการ#UNDPกรุงไทยรักเกาะเต่า ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างความแข็งแรง และยั่งยืนให้กับชุมชน เพื่อทำให้เกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว และสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์ และระบบนิเวศให้ยั่งยืนคู่กันตลอดไป