เมื่อ “คุณภาพ” “รสชาติ” และ “วัตถุดิบ” เป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อเครื่องดื่มมอลต์ของนักดื่มกลุ่มพรีเมียม ซึ่งไม่ต่างจากภาพลักษณ์ของแบรนด์และการออกแบบแพคเกจจิง ไฮเนเก้น 0.0 จึงหันมาสื่อสารเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์พรีเมียมของผลิตภัณฑ์ที่เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบในการผลิต
“เพียวมอลต์” เป็นแคมเปญที่ไฮเนเก้นสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อย้ำถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ส่งผลต่อรสชาติเพียวๆ มอลต์เต็มๆ ของเครื่องดื่มโดยคำว่า เพียวมอลต์ สื่อให้เห็นถึงการใช้ข้าวมอลต์บาร์เลย์เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดเดียวในการผลิตเครื่องดื่ม โดยไม่มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ อย่างเช่น ข้าว ข้าวโพด หรือ น้ำตาล ปะปนอยู่ในส่วนผสมของการผลิต
นายธีรภัทร พงศ์เมธี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้น กลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวว่า “สำหรับไฮเนเก้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด คือ รสชาติและประสบการณ์การดื่มของผู้บริโภค
นั่นเป็นเหตุผลที่ไฮเนเก้น 0.0 มีความพิถีพิถันในการผลิตเช่นเดียวกับแบรนด์หลัก เลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ และคุณภาพสูงอย่างเพียวมอลต์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและการรับรองเรื่องคุณภาพ
ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนนำแอลกอฮอล์ออกจากเครื่องดื่มเพื่อให้ได้เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ที่ยังคงรสชาติเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไฮเนเก้น รสสัมผัสนุ่มลึกกลิ่นหอมของมอลต์ และฟองหนานุ่ม โดยไม่ได้เติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน ซึ่งเพียวมอลต์ให้ผลลัพธ์ในเชิงรสชาติที่ดี และแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ”
จากผลการสำรวจนักดื่มกลุ่มพรีเมียม พบว่ารสชาติและแพคเกจจิง เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญสูงสุดในลำดับแรกเพราะบ่งบอกถึงคุณภาพและช่วยกระตุ้นการอยากทดลอง สิ่งสำคัญถัดมาคือ ส่วนผสม/วัตถุดิบที่ดี จะช่วยบ่งบอกถึงคุณภาพของเครื่องดื่ม ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อและกลับมาซื้อซ้ำ ส่วนประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นและน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งไฮเนเก้น 0.0 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในทุกความต้องการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของนักดื่ม
กลุ่มพรีเมียม โดยเฉพาะในเรื่องของวัตถุดิบที่ดี ซึ่งผลิตมาจากมอลต์แท้
สำหรับการผลิตเครื่องดื่มมอลต์ คาร์โบไฮเดรตที่ใช้ในการผลิตเครื่องดื่มจะเป็นตัวกำหนดรสชาติและคุณภาพของเครื่องดื่มนั้นๆ รวมถึงสี กลิ่น และความนุ่มของตัวเครื่องดื่ม นี่เป็นเหตุผลที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องตระหนักรู้ และเข้าใจถึงวัตถุดิบที่เป็นจิตวิญญาณของเครื่องดื่มมอลต์ และความแตกต่างของคาร์โบไฮเดรตที่นำมาใช้ในแต่ละชนิด
มอลต์จากข้าวบาร์เลย์เป็นชนิดที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพดีที่สุด มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่ว่าจะเป็น กลิ่นหอมของมอลต์สีน้ำตาลสวยธรรมชาติและรสชาติที่หวานจากธรรมชาติ เนื่องจากข้าวมอลต์บาร์เลย์นั้นมีเอนไซม์ที่สามารถย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ดีกว่าธัญพืชอื่นๆ ทำให้ข้าวบาร์เลย์นั้นให้ความหวาน หอม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นธัญพืชยอดนิยมที่นำไปผลิตเครื่องดื่มคุณภาพพรีเมียมกันอย่างแพร่หลาย
ส่วนคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ที่นำมาผลิตเครื่องดื่ม จะเรียกรวมๆ กันว่า Adjunct Grains เช่น ข้าว และข้าวโพด ก็ถูกเรียกรวมอยู่ในนี้ด้วย เหตุที่ธัญพืชอื่นๆ ยกเว้นข้าวบาร์เลย์ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เพราะต้องมีการเติมน้ำตาลเข้าไปในระหว่างกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้รสหวาน เนื่องจากธัญพืชอื่นๆ ไม่มีเอนไซม์เหมือนอย่างมอลต์ที่ผลิตจากข้าวบาร์เลย์ และมีโปรตีนน้อย ส่งผลถึงความหอมและหนานุ่มของเครื่องดื่มน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งหมดคือเหตุผลว่าทำไมเครื่องดื่มที่ผลิตจากเพียวมอลต์ถึงได้รับการยอมรับจากทั่วโลกถึงคุณภาพและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ไฮเนเก้น 0.0 เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์