'เดอะมอลล์ กรุ๊ป' เปิดโรดแมพแผนยุทธศาสตร์ สู่ดิจิตัลคอมเมิร์ซสุดยิ่งใหญ่ พร้อมประกาศเดินหน้า OMNICHANNEL RETAIL เต็มรูปแบบ นำนวัตกรรม AI - ANALYTICS ขั้นสูงมาใช้ในโลกรีเทลเป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งทั้ง OFFLINE และ ONLINE แบบไร้รอยต่อที่สมบูรณ์แบบที่สุด
ประเดิมด้วยการเปิดตัว 2 เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ M ONLINE และ GOURMET MARKET THAILAND พร้อมแผนตอกย้ำความเป็นผู้นำศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส ด้วยการเปิดตัวดิจิตอลพรีเมี่ยมแพลทฟอร์มและ LIFESTYLE CONTENTS ที่มีความแตกต่าง พิเศษไม่เหมือนใครเพื่อตอบโจทย์โลก DIGITAL RETAIL ในอนาคต
ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ด้วยศักยภาพความสำเร็จในฐานะผู้นำรีเทลของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ได้รังสรรค์ปรากฎการณ์ความสำเร็จภายใต้การบริหารศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม ดิเอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน จนเป็นที่ยอมรับในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประกาศโรดแมพแผนยุทธศาสตร์ DIGITAL COMMERCE RETAIL เต็มรูปแบบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ด้วยการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิตอล 5.0 ดึง AI - ANALYTICS ขั้นสูงมาใช้ในโลกรีเทลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาช่องทางการตลาดแบบบูรณาการ OMNICHANNEL RETAIL อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านโมเดลธุรกิจ O2O ที่ผสานจุดเด่นของ OFFLINE RETAIL ในฐานะผู้นำศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าระดับเวิลด์คลาส กับแพลทฟอร์ม ONLINE เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (SEAMLESS SHOPPING EXPERIENCE) ประเดิมผ่าน 2 พรีเมี่ยมเว็บไซต์ WWW.MONLINE.COM และ WWW.GOURMETMARKETTHAILAND.COM ด้วยการผนึกกำลังซัพพลายเออร์ คัดสรรสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ ตลอดจนสถาบันการเงินชั้นนำ และพันธมิตรธุรกิจต่างๆ มอบสิทธิประโยชน์แบบเหนือระดับ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุค 5.0 แบบ PERSONALIZATION ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลพรีเมี่ยมคอมเมิร์ซ (DIGITAL PREMIUM COMMERCE) เพื่อตอบโจทย์โลกรีเทลแห่งอนาคตภายในปี 2567
ดิจิทัลทรานส์ฟอร์มธุรกิจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป สู่ OMNICHANNEL อย่างเต็มรูปแบบในครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรีเทลที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จากศักยภาพความแข็งแกร่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เป็น 5 CORE VALUES & STRENGTH จุดแข็งที่โดดเด่นและแตกต่างคือ
· COMPLETE PRODUCT PORTFOLIO ความครบสมบูรณ์ของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าทุกเจนเนอเรชั่น
· O2O SEAMLESS EXPERIENCE ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ O2O: OFFLINE TO ONLINE รวมทั้ง SOCIAL MEDIA ผ่าน CHAT & SHOP
· EXTRAORDINARY IMMERSIVE EXPERIENCE ช้อปปิ้งแบบพิเศษสุดทั้งในเรื่องเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชั่นแคมเปญ และสนุกไปกับประสบการณ์ SHOPPER-TAINMENT ตลอดจน POP UP EVENTS ต่างๆ
· LOYALTY PROGRAM & PARTNER PRIVILEGES ลอยัลตี้โปรแกรมพิเศษเฉพาะของสมาชิกบัตร M CARD กว่า 4.5 ล้านคน รวมทั้งการผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจต่างๆ มอบสิทธิพิเศษ และสิทธิประโยชน์มากมาย
· PERSONALIZATION & CUSTOMIZATION, LIFESTYLE INSPIRED CONTENTS & COMMUNITY ENGAGEMENT การสร้างคอมมิวนีตี้ผ่านคอนเทนท์และอีเวนท์ที่โดนใจ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ที่เชื่อมโยงทั้ง ONLINE – OFFLINE แบบไร้รอยต่อ
5 จุดแข็งนี้คือ หัวใจของรีเทลของโลกแห่งอนาคตที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีศักยภาพความพร้อมในเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างนี้อย่างแท้จริง
บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดตัวแพลทฟอร์ม M ONLINE และ GOURMET MARKET THAILAND ในปีนี้ จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นการสร้างความสมบูรณ์แบบของ OMNICHANNEL ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ไม่เพียงเติมเต็มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่อำนวยความสะดวก รวดเร็วให้กับลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย ก็จะเสมือนการช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ดิเอ็มโพเรียม ดิเอ็มควอเทียร์ สยามพารากอน รวมทั้งกูรเมต์มาร์เก็ต ที่ได้รับการยอมรับในฐานะซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดีที่สุด สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ได้อย่างสะดวกเพียงปลายนิ้วสัมผัส อีกทั้งยังจะได้รับประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้าสนุกกับการช้อปแบบ SHOPPER-TAINMENT อีกทั้งจะดำเนินการควบคู่กับแผนการปรับโฉมศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสา เป็นเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ เช่นเดียวกันสาขางามวงศ์วาน ที่ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา”
วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี และ OMNICHANNEL เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จนกลายเป็นกลุยทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจรีเทลที่เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้า - ONLINE เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดประสบการณ์แห่งการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience) ซึ่ง M ONLINE ถูกออกแบบมาจากความเข้าใจลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ (CUSTOMER CENTRIC) โดยมี Big Data จาก Customer Platform และเทคโนโลยี AI (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ที่ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มทุนในการพัฒนาไปกว่า 100 ล้านบาท ทำให้เราได้ข้อมูลจากลูกค้าที่มาเดินในห้างสรรพสินค้าของเราทุกสาขาวันละ 1 ล้านคน และยังมีฐานข้อมูลจากสมาชิกบัตร M Card กว่า 4.5 ล้านคน สมาชิกบัตร SCB M กว่า 8 แสนคน ตลอดจนฐานข้อมูลลูกค้าจากกว่า 13 พันธมิตรบัตรเครดิตอีกจำนวนหลายล้านใบ
Big Data ดังกล่าวช่วยให้เราเข้าใจ OMNICHANNEL ECOSYSTEM และ CUSTOMER SHOPPING JOURNEY อย่างลึกซึ้ง และนำข้อมูลที่ได้นั้น มาคัดสรรค์สินค้าและสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังสร้าง Social Lifestyle Content รวมถึงการดีไซน์ User Interface สุดเก๋ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งของเรา ที่ Marketplace ไม่มี และจากข้อได้เปรียบนี้จะทำให้เราเป็นผู้นำของ OMNICAHNNEL ในตลาด ที่แตกต่าง รู้ใจ เข้าถึง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยหลังเปิดตัวจากนี้ จะทำการตลาดอัดแน่นทุกช่องทางทั้งสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ และกิจกรรมต่างๆ โดยได้ตั้งเป้าทราฟฟิคคนเข้าเว็บที่ 20 ล้านเพจวิวภายในปีนี้
3 กลยุทธ์ ปั้น M ONLINE สู่การเป็นอันดับหนึ่งของ OMNICHANNEL PLATFORM ที่ดีที่สุด
· CUSTOMER CENTRIC รู้จักและรู้ใจลูกค้าในเชิงลึก ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร (Customer Lifecycle) กำลังอยู่ในอารมณ์ที่ต้องการซื้อของจากช่องทางไหน (Customer Experience – CX) และลูกค้าให้คุณค่าของสิ่งไหนเป็นสำคัญ (Customer Value) ทำให้สามารถยกระดับการเลือกสินค้าได้อย่างแตกต่าง โดนใจ และสร้างสรรค์บริการที่สะดวกสบาย เลือกได้ ง่ายต่อการช้อป รวมถึงการออกแบบเว็บไซต์ที่เก๋ไก๋ พร้อมสอดแทรกคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าไม่ตกเทรนด์
· PARTNER CENTRIC
Ø ให้ความสำคัญกับพันธมิตรเหนืออื่นใด ในการก้าวไปข้างหน้าร่วมกันแบบ Win-Win ซึ่งเป็นการร่วมมือกันในเรื่องของข้อมูล ระบบ และช่องทางกระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น
Ø ให้ความสำคัญกับพนักงานให้เข้าถึงข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัด ด้วยการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูล ONLINE และ OFFLINE เข้าด้วยกัน เป็น Super Platform ซึ่งทำให้พนักงานให้บริการลูกค้าได้อย่างราบรื่น
· CONTENT CENTRIC เน้นการสื่อสารที่นำเสนอเทรนด์ สินค้า บริการ และโปรโมชั่นอย่างสร้างสรรค์ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย สื่อออนไลน์ ออฟไลน์ กิจกรรมการช้อปในรูปแบบใหม่ เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์กับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ช้อปปิ้งให้ WOW ในทุกมิติ
ความยิ่งใหญ่ในการเปิดตัว M ONLINE ครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอันดีจากพันธมิตรสำคัญที่ร่วมกันผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเอาใจนักช้อปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด, โซวาซู ประเทศไทย, บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอมเมอร์เชียล จำกัด, บริษัท สิงห์ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด, บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันมอบประสบการณ์ช้อปแบบเหนือระดับทุกที่ทุกเวลา แบบ “คลิกเดียวถึงห้างฯ” อย่างแท้จริง”
จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล กล่าวว่า“ในส่วนของความพร้อมของสินค้า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้านักช้อปให้โดนใจ และสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น เราได้รับความร่วมมือเป็นอันดีจากคู่ค้า ซัพพลายเออร์หลัก ในการก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ผนึกกำลังจัดเต็มสินค้าไลฟ์สไตล์สุดเก๋ พร้อมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกร่วมสร้างความเอ็กซ์คลูซีฟ เลือกสรรสินค้าพิเศษ สินค้าลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นให้ได้เลือกช้อปในเว็บ M ONLINE กว่า 1,000 แบรนด์ ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ BEAUTY HALL, WOMEN & MEN FASHION, POWER MALL, SPORTS MALL, THE LIVING, WATCH GALLERIA, BETREND และ GOURMET MARKET
กลยุทธ์สำคัญในการนำเสนอสินค้าที่ M ONLINE คือการทำ SHOPPER-TAINMENT ที่เป็นคอนเทนต์สนุกๆ สร้างแรงบันดาลใจ เข้าถึงง่าย ทั้งจากคนมีชื่อเสียง ดารา บล็อกเกอร์ด้านต่างๆ สำหรับสินค้าแต่ละประเภท เพื่อให้ลูกค้าเกิดไอเดียในการช้อปปิ้ง และเติมเต็มความเป็น OMNICHANNEL ด้วยกิจกรรมทั้ง OFFLINE และ ONLINE ที่จะเชื่อมโยงกันให้การช้อปปิ้งสนุกและมีสีสันมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์การช้อปที่แตกต่างและดีที่สุด”
รชยา วีระพงษ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้าดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงความพิเศษของแต่ละกลุ่มสินค้าดังนี้
· BEAUTY HALL ใน M ONLINE ได้ถูกต่อยอดจากความสำเร็จของการเป็น NO.1 WORLD CLASS BEAUTY DESTINATION ที่ได้คัดสรรแบรนด์บิวตี้ที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก มีให้เลือกช้อปถึง 250 แบรนด์ ทั้งเครื่องสำอาง สกินแคร์ และน้ำหอม อาทิ Chanel, Dior, La Mer, Lancome, Shiseido, Sulwhasoo, SK-II ลูกค้าจะได้พบกับสินค้าและแบรนด์ที่ตอบโจทย์หลากหลายใน M ONLINE ซึ่งในปีนี้สินค้าบิวตี้ระดับโลก ยกทัพมามอบความพิเศษ ทั้งสินค้าลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่น และโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อีกทั้งยังมี Exclusive แบรนด์ Byredo, Charlotte Tilbury, Maison Francis Kurkdjian ที่มีเฉพาะที่บิวตี้ฮอลล์และใน M ONLINE เท่านั้น
· FASHION “THE ULTIMATE FASHION DESTINATION IN THAILAND” ที่สุดของศูนย์รวมแฟชั่นที่ครบครันของเมืองไทย อีกหนึ่งแผนกไฮไลต์สำคัญ ซึ่งทางเดอะมอลล์กรุ๊ปมีความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำการคัดสรรสินค้าทั้งหญิงและชาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมตื่นตาตื่นใจกับกองทัพไทยดีไซเนอร์แบรนด์ระดับท้อป ที่ขนกันมาประกาศศักดา อาทิ Asava, ASV, Iconic, Janesuda, Kloset, Moo, Rotsaniyom, T and T, Tohns และ Vickteerut พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับนักช้อปสายแฟ
· M ONLINE x M SOCIAL “DESTINATION FOR THE TRENDIEST ONLINE FASHION BRANDS” ศูนย์รวมแบรนด์ดังฮ็อตฮิตจากทุกมุมแห่งโลกโซเชียล รวมทุกลุคตอบโจทย์ทุกสไตล์ป๊อป จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าและแอคเซสเซอร์รี่ พร้อมโปรแรงสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์สุดฮิป
· THE LIVING “INSPIRED YOUR HAPPINESS AT HOME” สุนทรียภาพและความสุขของคนรักบ้าน พบกับความครบครันของสินค้าเครื่องครัว เบเกอรี่ และของใช้ในบ้าน อาทิ Bodum, Joseph Joseph, Verasu, Zwilling รวมถึงกลุ่มเครื่องนอนชั้นนำอย่าง Amber, Cannon, Komfy, Pasaya ที่จะมาอัพเลเวลให้การอยู่บ้านมีสีสันไม่น่าเบื่ออีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มสปาที่จะช่วยสร้างบรรยากาศในบ้านให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น อาทิ Divana, Erb, Panpuri
· KIDS PLANET “WORLD OF KIDS PRODUCT, BABY ESSENTIAL AND TOYS” โลกแห่งความครบครันของน้องๆ ด้วยสินค้าแฟชั่น สินค้าเด็กอ่อน และของเล่นจากทั่วทุกมุมโลก เลือกสรรของเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการ และคัดสรรของใช้สำหรับคุณแม่ยุคใหม่ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันจากแบรนด์ชั้นนำ
จักรกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติมสำหรับสินค้าในกลุ่มหลักอื่นๆ ว่า
มิสเตอร์ ร็อบ ซิสเซล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้ากูร์เมต์ มาร์เก็ต และกูร์เมต์ อีทส์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ในเว็บไซต์ GOURMET MARKET THAILAND ยังคงตอกย้ำความเป็น WORLD CLASS GOURMET DESTINATION และ NO.1 FRESH PRODUCTS ที่สุดของซูเปอร์มาร์เก็ต มาตรฐานระดับโลก แหล่งรวมวัตถุดิบและอาหารชั้นเลิศที่ดีที่สุด ที่คัดสรรสินค้าจากทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต ทั้งอาหารสด ผัก ผลไม้ ชีส สินค้าออร์แกนิคและสินค้าเพื่อสุขภาพ รวมถึงสินค้าโกรเซอร์รี่ที่ครบครันที่สุด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ กว่า 3,000 แบรนด์ 10,000 รายการ พร้อมสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ ผักผลไม้สดและสินค้าพื้นบ้านที่ดีที่สุดจากแหล่งผลิต 77 จังหวัดทั่วประเทศ ตอกย้ำการเป็นผู้บุกเบิกสินค้า FROM FARM TO TABLE พร้อมบริการแบบ Personalize Service ที่สามารถ CHAT WITH CHEF เพื่อช่วยแนะนำเมนูอาหาร รวมถึงสูตรและวิธีทำ พร้อมจัดปาร์ตี้ที่บ้านด้วยวัตถุดิบจากทีม CHEF “YOU HUNT WE COOK” และบริการแบบเฉพาะเจาะจงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งความสุก ขนาด การตัดแต่ง ของสินค้าได้ การันตีคุณภาพด้วยบริการจัดส่งภายใน 3 ชั่วโมงเพื่อให้อาหารคงความสดใหม่ ปลอดภัยถึงมือลูกค้าที่สุด”
อรธิรา ภาคสุวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ที่ผ่านมาเราใช้ Traditional Way ในการดึงลูกค้าให้กลับมาใช้จ่ายที่ศูนย์การค้าฯ ผ่าน Print Advertising, Direct mail และแคตตาล็อก แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Social Media ต่างๆ เข้ามาแทนที่ ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ได้เริ่มทำการปรับกลยุทธ์ในการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกชมสินค้าดังระดับโลกผ่านทุกช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Youtube, Tiktok และ LINE รวมถึงการใช้คนดัง ดารา และ Influencer รุ่นใหม่ มีชื่อเสียงมาช่วยอัพเดทเทรนด์แฟชั่นทั้งลักซ์ชัวรี่ จิว เวอรี่ และแฟชั่นแบรนด์ต่างๆ
ดังนั้นเรามี Vision ที่จะนำพาร้านค้าของศูนย์การค้าฯ ร่วม Platform E-Commerce ด้วยกัน ตั้งแต่ Luxury Fashion, Lifestyle, Kids & Family จนถึง Dining Entertainment ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นแรงบันดาลใจและเป้าหมายของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป สู่การเป็น “ONE CLICK AROUND THE WORLD”
อัญชลี พัฒนอนันต์สุข ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาธุรกิจของเดอะมอลล์ กรุ๊ป สู่การเป็น FUTURE OF RETAIL ว่า ธุรกิจศูนย์การค้าถือเป็นธุรกิจที่ต้องมีความตื่นตัวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน หัวใจสำคัญของธุรกิจศูนย์การค้าในปัจจุบัน คือ การพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนา Digital Online Platform ในการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ผ่าน Social Commerce เพิ่มประสบการณ์ในการช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ต้องการความหลากหลาย โดยมีแนวทางสำคัญ 3 แนวทางคือ
· Unique Collaborative Contents การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจมีเอกลักษณ์เฉพาะ และดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการ
· Seamless Digital Experiences การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน
· Always Equipped Any Time Anywhere การมอบความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งในทุกสถานที่ ทุกเวลาที่ต้องการ รวมถึงความหลากหลายของสินค้าและบริการ ซึ่งถือป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างความสำเร็จ
ทั้งนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะพัฒนาเครื่องมือ และโครงสร้าง (Tools and Platform) ที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง ทั้ง OFFLINE และ ONLINE อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Experience) ซึ่งร้านค้าภายในศูนย์การค้าและแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าร่วม สร้างโอกาส และเพิ่มช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างรายได้ อีกทั้งโอกาสอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต”
เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ เอ็มโพเรี่ยม กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ด้วยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ สร้างความสะดวกสบาย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังเชื่อมโยงมนุษย์เข้าไว้ด้วยกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อย่างไรก็ตามสังคมโลก ก็ถูกแบ่งออกเป็นโลกสองใบ กล่าวคือ สังคมโลกแบบ PHYSICAL และสังคมโลกบนเครือข่ายออนไลน์ หรือโลก DIGITAL
ในส่วนของอุตสาหกรรมค้าปลีกก็ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามกระแสโลก อย่างไรก็ตามการค้าปลีกแบบดั้งเดิมหรือในโลกยุค PHYSICAL นั้น ยังคงมีจุดเด่นใน 3 ด้าน ได้แก่
ในขณะที่ค้าปลีกในยุคดิจิตอลนั้นก็มีความได้เปรียบในด้าน AI Learning –การเรียนรู้และสั่งสมข้อมูลและความรู้ของปัญญาประดิษฐ์ เพื่อนำมาตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค Big Data – แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลและประมวลผลเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบของ Customer Centric ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางของระบบโดยรวม ทั้งหมดเหล่านี้ นำไปสู่ Power of Prediction - การคาดเดาหรือทำนายพฤติกรรมของผู้บริโภคนั่นเอง
ทั้งนี้เดอะมอลล์ได้เตรียมผสมผสานความโดดเด่นของการค้าปลีกทั้งในด้าน Physical และ Digital มาพัฒนาเป็น Platform ที่จะสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุด ครบถ้วน ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อ และสร้างโอกาสทางธุรกิจสำคัญของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ต่อไปในอนาคต”