'ทีเอ็มบีธนชาต' ประกาศความพร้อมสร้างชีวิตการเงินที่ดี ทั้งวันนี้และอนาคต
10 May 2021

 

จากการประสานจุดแข็งของทีเอ็มบีและธนชาตที่ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ธนาคารใหม่ ทีเอ็มบีธนชาตหรือ ttb (ทีทีบี) ที่สื่อถึงสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง คนไทยผูกพันมายาวนานและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับทั้งสองธนาคาร พร้อมเดินหน้ามุ่งสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต ผ่าน Financial Well-being solution สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน ตลอดทุกช่วงชีวิต พร้อมช่วยลูกค้าฝ่าวิกฤต COVID-19 และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดยธนาคารได้เปิดแผนธุรกิจปีนี้ เร่งเครื่อง 3 เรื่องสำคัญ รุกขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก เพิ่มศักยภาพช่องทางดิจิทัล สร้างสรรค์แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นมิตรและรู้ใจ พร้อมยกระดับทักษะพนักงานเพื่อสนับสนุนทิศทางการดำเนินงานของธนาคาร

 

 

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การรวมทีมของสององค์กรได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100% ผนึกเป็น One Team ที่พร้อมจะสานต่อ One Dream ที่มีร่วมกัน คือ การสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ ผ่านโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยให้ลูกค้ามีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง พร้อมฝ่าอุปสรรค และสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ซึ่งตลอดปี 2563 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2564 สิ่งที่ธนาคารดำเนินการควบคู่กันกับการเดินหน้ารวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต เพื่อเป้าหมายการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์(EBT) ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 คือ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยในปีที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งรายย่อยและธุรกิจไปกว่า 750,000 ราย และในช่วงเวลานี้ก็ได้เตรียมมาตรการอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

 

“One Team ที่จะร่วมกันสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ พร้อมให้ทุกคนจดจำในชื่อใหม่ว่าทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb และ ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยในปีนี้ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ได้ลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่จะเร่งดำเนินการไว้ 3 เรื่อง ได้แก่

1. ขยายฐานลูกค้าที่เลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก (main bank) ผ่าน Financial Well-being solution โดยมีเป้าหมายหลักคือ ลูกค้ารวมกว่า 10 ล้านราย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 4 เสาหลัก(Financial Well-being pillars) ได้แก่ ฉลาดออม ฉลาดใช้ (Mindful spending & start saving), รอบรู้เรื่องกู้ยืม (Healthy borrowing), ลงทุนเพื่ออนาคต (Investing for future) และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ (Sufficient protection)

2. สร้างศักยภาพทางด้าน “Digital-first operating model” บนโมบายแบงก์กิ้งแพลตฟอร์ม ที่เป็นมิตรและรู้ใจตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคน แต่ละช่วงชีวิต มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้า และมีความคล่องตัวที่สูงขึ้นในการขับเคลื่อนนวัตกรรม

3. สร้างศักยภาพบุคลากร (People development) เพื่อสนับสนุนการสร้าง Humanized digital เนื่องจากธนาคารไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะเทคโนโลยี แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาทางการเงินผ่านพนักงานของธนาคาร 
 

โดยใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือที่มาช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า เพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัล ซึ่งพนักงานจะได้รับการพัฒนายกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (Up-skill) และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (Re-skill) ที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนทิศทางของธนาคารที่จะสร้าง Humanized digital หรือ รูปแบบการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่เป็นมิตรและรู้ใจ

จากลำดับความสำคัญทางธุรกิจที่ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ทำอยู่นี้ จะช่วยสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยให้คนไทยสามารถต่อสู้ ก้าวข้ามวิกฤต COVID-19 และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ นายปิติ กล่าว

 

 

นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่าเรามีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าบุคคลมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยยึดความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าเป็นที่ตั้ง เราได้จับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มแต่ละช่วงชีวิต ได้ยกระดับพนักงานของธนาคารเพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้า คอยทำความเข้าใจช่วยเหลือ ค้นหาความต้องการและส่งมอบโซลูชันที่เหมาะสมให้กับลูกค้า สุดท้ายเราจะสนับสนุนให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและเลือกใช้เราเป็นธนาคารหลักตลอดไป ด้วยสิทธิพิเศษที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

โดยได้ออกแบบโซลูชันทางการเงินที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต 4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ 

1. กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มทำงาน กำลังก่อร่างสร้างตัว เพื่อล้านแรกในชีวิต ธนาคารจะเน้นโซลูชันด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง พร้อมรับสิทธิประโยชน์รอบด้าน รวมถึงประกันอุบัติเหตุฟรี ที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงหากเกิดอุบัติเหตุผ่านบัญชี all free และออมอย่างมีวินัยเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินผ่านบัญชี no fixed

2. กลุ่มลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว เป็นเสาหลักของบ้าน ต้องการชีวิตอิสระในวันข้างหน้า ธนาคารจะเสนอโซลูชันเกี่ยวกับสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการมีบ้านมีรถ ที่ใหญ่ขึ้นสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้คนกลุ่มนี้มีระเบียบวินัยในการผ่อนชำระเพื่อปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด และมีโซลูชันการรวบหนี้ด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อให้จัดการปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด สามารถเริ่มต้นเก็บออมและลงทุนเพื่ออนาคตได้ต่อไป 

3. กลุ่มลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ต้องการมีชีวิตที่มั่นคงและเกษียณอย่างไร้กังวล ธนาคารเน้นการให้ความรู้ด้านการลงทุน จัดทัพตามความเสี่ยง ต่อยอดความมั่งคั่งผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และ ttb smart port  พอร์ตการลงทุน ที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนครบวงจร โดยมืออาชีพ 

4. กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่ง เตรียมเข้าสู่วัยเกษียณ อยากใช้ชีวิตได้ตามใจ สุขภาพเป็นหนึ่ง ลูกหลานสบาย ธนาคารพร้อมส่งมอบโซลูชันด้านประกันชีวิตและการลงทุนที่มอบความอุ่นใจในการรักษาความมั่งคั่ง พร้อมดูแลสุขภาพ และวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาทได้อย่างสบายใจ

 

ด้านนายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าและคู่ค้าด้วยโครงการตั้งหลักซึ่งช่วยลูกค้า ผ่อนหนักเป็นเบาได้กว่า 600,000 รายทั่วประเทศ และมอบประกันคุ้มครองไวรัส COVID-19 ให้แก่บริษัทคู่ค้าทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ 

สำหรับปีนี้ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารภายใต้แบรนด์ ttbDRIVE พร้อมขับเคลื่อนสนับสนุนครอบคลุมทุกภาคส่วนใน ecosystem ของธุรกิจรถยนต์ ด้วยภารกิจมากกว่าสินเชื่อรถ...เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น” ได้แก่ 

1. พร้อมขับเคลื่อนให้ลูกค้าไปต่อ โดย ttbDRIVE พร้อมช่วยลูกค้าเคลียร์ทุกอุปสรรคทางการเงิน รวมหนี้ ลดภาระ เพิ่มสภาพคล่องด้วย รถแลกเงินเคลียร์หนี้และมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่รักษาวินัยทางการเงินเป็นอย่างดีผ่านโครงการจ่ายดีมีคืนอีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยโปรแกรม auto-approve ผนวกกับ scoring model พร้อมเจ้าหน้าที่ ttbDRIVE agent ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

2. พร้อมขับเคลื่อนให้ธุรกิจคู่ค้าไม่สะดุด โดยได้เปิดตัว “DRIVE Connect Platform” มิติใหม่ของการทำตลาดออนไลน์ผ่านทาง Facebook ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว (ดีลเลอร์รถมือสอง) และยังมีระบบ “Cross-area Booking” สามารถรองรับการซื้อขายรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วผ่านช่องทางออนไลน์ ลดข้อจำกัดด้านพื้นที่ให้แก่คู่ค้า และ

3. พร้อมยกระดับศักยภาพทีมงาน ttbDRIVE เพื่อการทำงานในยุคดิจิทัล ผ่าน DRIVE Academy โรงเรียนสินเชื่อรถยนต์ ttb เพื่อจะฝึกทีมงาน DRIVE ภายใต้หลักสูตรที่เข้มข้น เพื่อสร้างบริการที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้าทุกราย

นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า เป้าหมายของธนาคาร คือ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอีไว้วางใจให้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 โซลูชัน เพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นของลูกค้าธุรกิจ ได้แก่ 

1. มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยเน้นการสนับสนุนเอสเอ็มอีที่อยู่ในซัพพลายเชนของธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้รับวงเงินที่เพียงพอบนเงื่อนไขที่เหมาะสมผ่าน “สินเชื่อเพื่อเครือข่ายธุรกิจ ทีทีบี (ttb supply chain solutions)” และช่วยเสริมสภาพคล่องในภาวะวิกฤตด้วยโครงการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอี (Special Loan) และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ (Asset warehousing) ที่สอดคล้องนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย 

2. มอบโซลูชันและบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจ ด้วย “ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ทีทีบี บิสซิเนสวัน (ttb business one)” ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือการทำธุรกรรมออนไลน์ บิสซิเนสวัน ช่วยให้ทำธุรกรรมได้ครบตั้งแต่เรื่องสินเชื่อ จนถึงธุรกรรมต่างประเทศ มีรายงานครบถ้วน เรียกดูง่าย และนำไปต่อยอดทำรายงานเชิงวิเคราะห์ได้ สามารถเชื่อมต่อกับระบบของพันธมิตรและลูกค้า เช่น ERP POS และอีกหนึ่งดิจิทัลโซลูชันที่ช่วยลดเรื่องการใช้เงินสดและเอกสารอย่างเต็มรูปแบบก็คือ “ระบบบริหารการเรียกเก็บเงิน ทีทีบี (ttb digital invoice management)” ซึ่งเป็นการนำโซลูชันของธนาคารมาเชื่อมต่อกับระบบการเรียกเก็บเงินของลูกค้าธุรกิจ ลดการใช้เงินสดและเอกสาร ลดเวลาดำเนินการ และค่าใช้จ่ายเรื่องคน และ 

3. มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า ด้วย “บริการการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)” รวมไปถึงบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารความเสี่ยงและด้านประกัน อย่างเช่น “ประกันสินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี วันไลฟ์ (ttb one life business insurance)” เป็นต้น

 

 

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 16 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานทั้งสององค์กรได้ทำงานร่วมกันอย่างหนัก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนการรวมกิจการที่วางไว้ ภายใต้แนวทาง One Dream, One Team, One Goal…จากนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนครึ่งกับก้าวสำคัญสุดท้ายของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นสุดท้าย เพื่อขับเคลื่อนธนาคารใหม่ที่จะช่วยให้คนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น

สำหรับความคืบหน้าในการรวมกิจการด้านบุคลากร ได้รวมพนักงานทั้งสององค์กรเป็นพนักงานของทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แล้ว 100% เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 และเร่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ เพื่อหล่อหลอมพนักงานให้เป็นหนึ่งเดียว ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนด้านช่องทางการให้บริการและการสื่อสาร ได้ทยอยรวมช่องทางหลักของทั้งสองธนาคาร เช่น สาขา และ atm รวมทั้งทำการรีแบรนด์เป็นทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าเดิมของทั้งสองธนาคารสามารถเข้าไปใช้บริการได้ ขณะที่ช่องทางอื่นๆ เช่น Digital channels จะทยอยรวมเป็นแบรนด์ใหม่ ttb และมีกำหนดแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนกรกฎาคม 2564 อีกทั้งสื่อทางการตลาดต่างๆ รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ได้เปลี่ยนโฉมใหม่ภายใต้แบรนด์ ttb เช่นกัน

ด้านระบบงาน IT และระบบงานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเชื่อมต่อระบบของทั้งสองธนาคารไว้แล้ว สำหรับกระบวนการสุดท้ายของการรวมกิจการ คือ การเชื่อมต่อระบบของทั้งทีเอ็มบีและธนชาตให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ (Entire Business Transfer) ซึ่งการเชื่อมต่อระบบในครั้งนี้ ทีมงานได้มีการวางแผนงานอย่างรัดกุมและมีการซักซ้อมแบบเสมือนจริง (Mock run) เพื่อให้การเชื่อมต่อระบบในวันจริงสำเร็จตามแผน

ภายหลังการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ ทุกผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการจะรวมเป็นหนึ่งเดียว ลูกค้าทีเอ็มบีเดิม สามารถใช้ผลิตภัณฑ์และบริการได้เหมือนเดิมภายใต้แบรนด์ใหม่ สำหรับลูกค้าธนชาตเดิม หลังการรวมระบบในเดือนกรกฎาคมสำเร็จ ผลิตภัณฑ์และบริการเดิมจะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด รวมไปถึงการเพิ่มเติมในสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยลูกค้าธนชาตจะได้รับจดหมายแจ้งรายละเอียดซึ่งจะมี QR Code ให้สแกนเข้าไปดูข้อมูลเฉพาะของแต่ละบุคคล และจดหมายนี้ จะทยอยส่งออกไปหาลูกค้าตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ธนาคารขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะนำไปสู่การยกระดับประสบการณ์ทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนแผนงานและวิธีการทำงานต่างๆทีมงาน ttb ก็ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานบูรณาการร่วมกันอย่างหนักมาตลอดเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมแล้วที่จะดำเนินการในขั้นสุดท้าย เพื่อจะได้นำเสนอธนาคารใหม่ที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคตนายประพันธ์ กล่าวสรุป 

[อ่าน 1,933]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปีมะเส็งเฮงมาหา 24 ม.ค. – 2 ก.พ.นี้ ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา
เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ POCO X7 Series ประสิทธิภาพเหนือระดับ ดีไซน์สวยสะดุดตา
THANA ยิ้มรับปีใหม่ จัดแคมเปญสุดปัง
 “คุ้มค่า..รับปีงู น่าอยู่ทุกโครงการ”
“ยืดเปล่า” ตัวละ 100 เวอร์ชั่นใหม่ “นุ่มแต่ไร้ขุย” วางจำหน่ายวันนี้วันแรก!
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เปิดตัวโฉมใหม่พื้นที่จัดงาน
JINNY ดึง ‘จอง-คัลแลน’ เข้าด้อมเจ้าเหมียว ตอบโจทย์ 'รักแมวในแบบที่เป็น' เข้าใจทุกความแตกต่าง
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved