'มาชิตะ' เดินหน้ากลยุทธ์ Collaboration ต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือ 'ฮะจิบัง ราเมน' ร้านราเมนญี่ปุ่นชื่อดัง ออกสาหร่ายอบรสชาติใหม่รส 'ราเมนเย็น' ดึงเมนูขึ้นชื่อของร้านอย่างเมนู ซารุราเมน บะหมี่เย็นต้นตำรับญี่ปุ่น ปลุกตลาดสาหร่ายเปิดประสบการณ์ใหม่เพิ่มสีสันให้กับผู้บริโภค ชูจุดเด่นสาหร่ายคุณภาพพรีเมี่ยม จากประเทศเกาหลี100% ไม่ใส่ผงชูรสตั้งเป้ารักษาตำแหน่งผู้นำตลาดสาหร่ายอบด้วยส่วนแบ่ง 39%
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแนวทางการทำตลาดของ 'มาชิตะ' ที่ทำมาโดยตลอดและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก คือกลยุทธ์ Partnership Marketing การร่วมมือกับพันธมิตร หรือ Collaboration กับร้านอาหารชื่อดัง อาทิ บาร์บีคิว พลาซ่า (Bar B Q Plaza), บอนชอน ชิคเกน (BonChon Chicken), ซูกิชิ (Sukishi) และทูดาริ (Tudari) ทำให้แบรนด์มีความโดดเด่น สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และวางจุดยืนให้กับแบรนด์ได้อย่างดี จนทำให้ได้รับผลตอบรับจากตลาดส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างมาก
ล่าสุด 'มาชิตะ' เดินหน้าผนึก 'ฮะจิบัง ราเมน' ร้านราเมนสัญชาติญี่ปุ่นชื่อดัง ร่วมพัฒนาสูตรสาหร่ายอบรสชาติใหม่ 'รสราเมนเย็น' ดึงเมนู Signature ยอดนิยมของร้าน ผสานจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ เสิร์ฟความอร่อยให้กับผู้บริโภค โดยร้านฮะจิบัง ราเมน มีเมนูซารุราเมน บะหมี่เย็นสไตล์ญี่ปุ่นเอกลักษณ์เมนูอันดับ 1 ของร้าน โดยการรับประทานแบบจุ่มเส้นราเมนลงในน้ำซอสซารุ พร้อมวาซาบิ หัวไชเท้า ต้นหอม ด้วยรสชาติและกลิ่น ของน้ำซอสซารุ ที่มอบความเย็น แบบญี่ปุ่นแท้ๆ ทำให้ รสชาติอร่อย กลมกล่อม ดังนั้นเมื่อปรุงเข้ากับแผ่นสาหร่ายมาชิตะอบกรอบ จึงเกิดเป็นความอร่อยใหม่ ที่มาพร้อมกับความหอมของน้ำมันงาและความกรอบของสาหร่าย อีกทั้งยังได้สาหร่ายที่มีความเย็นเหมือนได้เข้าไปอยู่ในถ้วยซารุแท้ๆ ทำให้รสชาติอร่อย หอมน้ำซอสซารุ จากต้นฉบับ
โดยที่ผ่านมา สาหร่ายมาชิตะ เป็นแบรนด์แรกที่สร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์ Partnership Marketing โดยทุกร้านที่เราเลือกมา Collaboration ล้วนแต่เป็นร้านอาหารที่ผู้บริโภคยอมรับ และไว้วางใจ เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองฝั่งมาเจอกัน นำรสชาติความอร่อยบนโต๊ะอาหาร มาใส่ไว้ในซองส่งตรงถึงมือผู้บริโภค โดยสาหร่ายมาชิตะยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า และถือเป็นแบรนด์เดียวในตลาดสาหร่ายที่ทุกสินค้าเป็นสูตร 0% ผงชูรส (No Msg) แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อย โดยใช้สาหร่ายคุณภาพพรีเมี่ยม จากประเทศเกาหลี 100% โดยสาหร่ายอบยังเป็นหนึ่งในสินค้าพระเอกที่สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจสุขภาพ
ด้านแผนการทำตลาดของบริษัทฯ ผ่านทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของสินค้าให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ จนถึงวัยทำงานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่สำคัญยังช่วยขยายฐานผู้บริโภคใหม่ๆ โดยเฉพาะแฟนๆ ที่เป็นสาวกหรือลูกค้าของแบรนด์ฮะจิบัง ราเมนเกิดการทดลอง และซื้อสาหร่ายมาชิตะรับประทานมากขึ้น
สำหรับสาหร่ายมาชิตะอบสไตล์เกาหลี 'รสราเมนเย็น' มีขนาด 15 กรัมราคา 39 บาท เสิร์ฟความอร่อยผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา รวมถึงจำหน่ายที่ร้านฮะจิบัง ราเมน ทุกสาขาในกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ และ ปทุมธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงเดือนสิงหาคม 2564 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
ด้านภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวสาหร่ายมีมูลค่าประมาณ 2,101 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แม้มูลค่าตลาดจะลดลงเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่แบรนด์สาหร่ายมาชิตะ ยังคงมีการเติบโต ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดปี 2563 อยู่ที่ 18.3% โดยเฉพาะสาหร่ายประเภทอบ แม้ตลาดรวมจะติดลบ 19.2% แต่มาชิตะเติบโตถึง 6% มีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 31.5%