จากสภาพปัญหาของช้างชราและช้างเร่ร่อนซึ่งถูกใช้งานเมื่อตอนมีกำลัง แต่เมื่อแก่ตัวหลายเชือกกลับถูกทิ้งให้อดโซ บาดเจ็บ การหาสถานที่ที่มีความพร้อมในการเลี้ยงดู มีธรรมชาติ มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับช้าง จึงเป็นอีกหนึ่งหนทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว และอนุรักษ์ประชากรช้างที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
ในปี 2551 จึงมีการก่อตั้ง ‘บ้าน ช.ช้างชรา’ หรือ ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จากความมุ่งมั่นตั้งใจของ นายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิ์ผล หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งปัจจุบัน ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบจิตอาสา ด้วยพื้นที่ 130 ไร่ มีจำนวนช้างวัยเกษียณและถูกทอดทิ้งจำนวนกว่า 28 เชือก
กฤตพล ศาลางาม ผู้จัดการมูลนิธิบ้าน ช.ช้างชรา เล่าว่า “จากรายงานของกรมป่าไม้พบว่า พื้นที่ป่าในประเทศไทยได้ลดลงอย่างน่าใจหายจาก 53% ของประเทศในปี พ.ศ. 2505 เหลือเพียง 31.5% ของประไทยเท่านั้นในปี 2557 ทำให้ช้างป่าไม่มีผืนป่าอาศัย จึงออกมารบกวนชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังประสบปัญหารุนแรงจากการพวกแก๊งฆ่าช้างเพื่อเอาอวัยวะมาขายเป็นจำนวนมากอีกด้วย”
ปัจจุบัน บ้าน ช.ช้างชรา ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าอาหารช้าง ค่ายารักษาโรค ค่าตอบแทนอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ และค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ภายในศูนย์กว่าล้านบาทต่อเดือน โดยเฉพาะค่าอาหารของช้างต่อเดือนประมาณ 5 แสนบาท จึงจำเป็นต้องมีการจัดการพื้นที่เพื่อปลูกอาหารช้าง นอกเหนือจากการรับบริจาคและรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
ดังนั้น ในโอกาสที่ บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 10 เหล่าผู้บริหาร จึงนำทีมพนักงานจิตอาสากว่า 250 ชีวิต เดินทางร่วมโครงการปลูกพืชอาหารช้าง ทำอาหารให้ช้าง โดยร่วมกันกวนข้าวช้าง ปั้นอาหาร และป้อนอาหารให้ช้าง ทำปุ๋ยหมักจากมูลช้าง ตัดหญ้าบาน่า ปลูกหญ้าบาน่า พร้อมมอบของอุปโภคบริโภค รวมถึงอุปกรณ์พัฒนาการเกษตรให้แก่เจ้าหน้าที่มูลนิธิบ้าน ช.ช้างชรา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โสภา กาญจนรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากที่ทราบว่าทางศูนย์ยังต้องการความช่วยเหลือทั้งกำลังแรงกาย ทุนทรัพย์ และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ในการดูแลช้าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารช้าง ยารักษาโรคสำหรับช้าง รวมถึงค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ กิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์ช้างไทย และยังได้มีโอกาสทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับทีมผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาทุกคนอีกด้วย”
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงการช่วยเหลือและสร้างสรรค์สังคมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีที่ก่อตั้ง โดยมีการปลูกจิตสำนึกภายในองค์กรเพื่อสร้างเป็นวัฒนธรรมองค์กร ฉะนั้น พนักงานฟอลคอนฯ จึงมีความเป็นจิตอาสา ทั้งเวลาที่อยู่ในองค์กร หรือแม้แต่จะอยู่ในสังคมภายนอกก็ตาม สำหรับ โครงการ “รักษ์โลก...รักษ์เรา” ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดต่อเนื่องเป็นที่ 3 โดยบริษัทฯ มีเจตนารมณ์ที่จะมุ่งเน้นและสนับสนุนโครงการที่ช่วยอนุรักษ์ดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมของเราให้สดใสงดงามเพื่อให้โลกเราน่าอยู่ต่อไป” โสภา กล่าวทิ้งท้าย