Infobip ผู้นำแพลตฟอร์มการสื่อสารแบบ omnichannel ระดับสากล กำลังวางแผนระดมทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 15.6 พันล้านบาท จากนักลงทุนในปีนี้ เพื่อจัดหาข้อตกลงก่อนเริ่มการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) ในสหรัฐฯ ทาง Infobip ได้เริ่มการเจรจากับนักลงุทนเกี่ยวกับการระดมทุนดังกล่าว ซึ่งจะมีมูลค่ามากกว่าการเจรจาครั้งก่อนถึง 300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.3 พันล้านบาทในช่วงวิกฤตการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 Infobip เป็นหนึ่งในบริษัทระดับโลกที่เติบโตได้ดี โดยบริษัทมีพนักงานกว่า 2,400 คน ใน 68 สำนักงานทั่วโลก และยังได้เพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นกว่า 500 คน ตั้งแต่ต้นปี 2020 เพื่อรองรับความต้องการในการสื่อสารทางไกลของผู้คนที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการบริการทาง SMS บริษัท Infobip ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Anam ผู้ให้บริการ SMS firewall อันดับหนึ่งของโลก ที่นำเสนอโซลูชันให้แก่ผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Mobile Network Operators: MNOs) มากกว่า 80 ราย และมีลูกค้ากว่า 606 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะเสริมสร้างการเป็นผู้นำของ Infobip ด้านการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ผ่านผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้การรวมกันของสองบริษัทชั้นนำแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายที่เด่นชัดของการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ใช้งาน ในด้าน SMS Firewall, SMS Hubs, SMSC, CPaaS, RCS และ Authentication & Verification อีกด้วย

การร่วมมือของ Anam สู่การเป็นพันธมิตรด้านผู้วางกลยุทธ์การดำเนินงานกับ Infobip ส่งผลให้ลูกค้าของทั้งสองบริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทุกระดับ อาทิ การติดต่อศูนย์ปฏิบัติการเครือข่าย (NOC) ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง การเข้าถึงศูนย์บริการใกล้บ้าน การเพิ่มการวิเคราะห์ข้อมูลและการรายงานผล เป็นต้น นอกจากนี้ พันธมิตรดังกล่าวยังยกระดับให้ Infobip สร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ให้บริการเครือข่ายกว่า 650 แหล่ง ได้ครอบคลุมทั่วทั้งโลกอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ทรัพย์สินรวมของ Anam และ Infobip ทำให้เกิดห่วงโซ่อุปทานที่ดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับ A2P SMS ทั่วโลก โดยทั้งสองบริษัทจะสามารถให้บริการการหาแนวทางแก้ไขทางเทคนิคต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจำนวนมากกว่า 700 รายรวมกัน ซึ่งคิดเป็น 64% ของการใช้งานโทรศัพท์มือถือทั่วโลก

ปัจจุบัน Infobip ดำเนินงานติดต่อลูกค้ามากกว่า 14,000 ล้านรายต่อเดือน ครอบคลุมทั่วทุกช่องทางการสื่อสารผ่านกว่า 190 ประเทศทั่วโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ รายการจาก ROCCO หน่วยงานจัดลำดับขั้นรายปีแก่ผู้ใบริการโทรศัพท์มือถือ ทำการสำรวจผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรวม 215 ราย จาก 109 ประเทศทั่วโลก โดย Infobip ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับชั้นแนวหน้า (Tier One) ด้านผู้ขาย SMS Firewall นับเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันของ Infobip ในการเป็นผู้ให้บริการ SMS Firewall ชั้นนำ ซึ่งช่วยเพิ่มชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการกรองและการสร้างรายได้ทาง SMS ที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพสูง

นอกจากความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ Infobip ยังได้รับรางวัล ผู้นำด้านการให้บริการแพลตฟอร์มการสื่อสารรอบโลก ปี 2021 (Worldwide Communications Platform-as-a-Service (CPaas) 2021 Vendor Assessment) จาก IDC MarketScape ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ผลิตนวัตกรรมที่โดดเด่นด้านการกำหนดและสร้างสรรค์บริการเชื่อมต่อการสื่อสารไร้สายของโลก โดยประเด็นหลักของการให้รางวัล จะนับจากความสามารถของแพลตฟอร์มในการอำนวยความสะดวกเพื่อการพัฒนาต่อยอดอย่างรวดเร็วและบริการการสื่อสารแบบทันใจที่ทำได้ง่ายและยืดหยุ่น ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างโปรแกรม แอพพลิเคชันการเขียนโปรแกรมอินเตอร์เฟส (API) ที่ใช้เสียงและข้อความ เพื่อการสร้างแอพพลิเคชันบนระบบคลาวด์ ให้เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับแต่ละองค์กร

มร. ซิลวิโอ คูติช ประธานกรรมการบริหารบริษัท Infobip จำกัด กล่าวว่า “ขั้นต่อไปหลังจากการขยายธุรกิจของ Infobip คือ การทำ IPO ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักเพื่อการเติบโตในอนาคต เรากำลังเตรียมพร้อมสู่ IPO พร้อมปรับเปลี่ยนการดำเนินงานภายในและวิธีการทำแผนการเงินของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทำ IPO ภายในปี 2023 ที่จะถึงนี้”

Infobip ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 แบบ ได้แก่ Moments, Answers และ Conversations ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า การสื่อสารที่ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มแบบ omnichannel โซลูชันศูนย์ติดต่อบนระบบคลาวด์ และการตอบข้อความแชทแบบอัตโนมัติผ่านคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเปิดบริการสาขาประเทศไทยในปี 2011 บริษัท Infobip ได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทได้ช่วยเหลือธุรกิจ มากกว่า 100 แห่ง จากหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจการตลาด ธุรกิจการโฆษณา ธุรกิจคมนาคม และธุรกิจส่งออก เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น

“การสื่อสารผ่านเทคโนโลยียังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น ตอนนี้เรายังทำได้เพียงไม่กี่อย่างจากโทรศัพท์มือถือของเรา” มร. คูติช กล่าว “เราจึงกำลังค้นคว้าเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้ได้มากที่สุด เพื่อนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้กับโซลูชันที่หลากหลายของเรา โดยมีเป้าหมายเดิม คือ ให้ทุกคนมีเวลาเพิ่มขึ้นจากการทำงานต่าง ๆ และทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นตามไปด้วย” มร. คูติช กล่าวเสริม