ยูนิลีเวอร์ ​ร่วมสร้าง 'โลกที่ดีกว่า' ด้วยแคมเปญ 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ'
22 Jun 2021

 

ยูนิลีเวอร์ตอกย้ำความเป็น 'แบรนด์พลเมือง' (Brand Citizen) ของโลกใบนี้ ด้วยความมุ่งมั่นจะสร้าง 'โลกที่ดีกว่า' ในทุกๆ วันของการทำงานอันเป็นเป้าหมายและพันธกิจขององค์กรมากว่าศตวรรษแล้ว

 

พันธกิจระดับโลกของยูนิลีเวอร์ คือ 'การทำดี'

'Doing Well by Doing Good’ คือ 'ความเชื่อ' ขององค์กรนี้ที่มุ่ง 'ทำอะไรดีๆ' ด้วย 'การทำดี'      

เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ สนับสนุนทั้งคู่ค้าและพนักงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม และช่วยชุมชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น

 

'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ'

 

ล่าสุด ยูนิลีเวอร์ ส่งแคมเปญระดับโลก 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' (Every U Does Good: EUDG) เพื่อปลุกจิตสำนึกของผู้บริโภคต่อโครงการรณรงค์เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ และส่งเสริมการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศไทยในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา    

 

ด้วยว่า สินค้ายูนิลีเวอร์นั้น เป็น 'ของต้องมี' ของทุกครัวเรือนมาช้านาน ว่ากันว่า อย่างน้อยแต่ละบ้านต้องมีผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์อย่างน้อย 3 ชิ้นขึ้นไป ฉะนั้น 'ทุกครั้งของการถู ทุกครั้งของการแปรง และทุกครั้งของการทานหรือดื่ม' กับผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งของยูนิลีเวอร์ นั่นคือการมีส่วนร่วมเพื่อทำความดีของผู้บริโภคให้กับโลกใบนี้ ดีขึ้น น่าอยู่มากขึ้น และสนับสนุนให้ประชาคมโลกมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

โรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า

“ยูนิลีเวอร์ มีความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้ ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ เราเชื่อว่า เราสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและทำให้โลกดีขึ้น ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติใดก็ตาม เราต้องการตอบแทนสังคม และผู้บริโภค

เราเชื่อว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างรวมกัน ย่อมก่อให้เกิดผลดีอย่างมาก และด้วยการทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนและทุกองค์ประกอบของธุรกิจได้มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะน้อย หรือมากก็ตาม แต่ต่างก็มุ่งสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม เราสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า ในทุกๆ U พวกเราพยายามอย่างมาก ไม่เพียงแต่ทำสิ่งดีๆ ในตอนนี้ แต่จะทำสิ่งดีๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งในอนาคต”  

 

'ทำดี' ที่ 'ใครๆ ก็มีส่วนร่วมได้'

 

'Doing Well by Doing Good’ ของยูนิลีเวอร์จับต้องได้ง่ายมาก และทำให้ผู้บริโภคก็มีส่วนร่วมสรรค์สร้างโลกให้น่าอยู่และมีความยั่งยืน อย่างในประเทศไทย ยูนิลีเวอร์เองก็มองปัญหาในภาพใหญ่ และยังเดินหน้าที่จะแก้ไขปัญหาสังคม ลดขยะพลาสติก รวมทั้งต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างไม่หยุดยั้ง และได้ประกาศเป้าหมายนับแต่ปี 2562 ที่ต้องการลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้ หรือย่อยสลายได้ ให้ได้ 100% นอกจากนี้ ยังจะเก็บรวบรวมพลาสติกและแปรรูปให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป

 

"ยูนิลีเวอร์เป็นผู้นำในกลุ่มสินค้า FMCG ในไทยที่ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล หลังการบริโภค (Post-Consumer Recycled: PCR) มากถึง 4,000 ตัน ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ของเรา เช่น ซันไลต์, คอมฟอร์ท, ซันซิล,โดฟ ฯลฯ ล้วนใช้ขวดบรรจุภัณฑ์ที่เป็น PCR ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยและยังทำให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคัดแยกและจัดเก็บขยะพลาสติก เพื่อให้ขยะพลาสติกถูกนำมาหมุนเวียนใช้ในระบบ"

 

แต่แคมเปญ 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' มีบริบทมากกว่ามิติของการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีมิติในเชิงของสังคมด้วย

 

 

ทั้งนี้ ทุกๆ แบรนด์ของยูนิลีเวอร์ ยังคงมุ่งทำสิ่งดีๆ ต่อไป ด้วยแนวคิดของแบรนด์ หรือจัดกิจกรรมทำดีต่างๆ ตัวอย่างเช่น

  • โดฟ สอนให้เด็กผู้หญิงมีความมั่นใจในตัวเอง
  • คนอร์ ส่งเสริมโภชนาการอาหาร
  • วาสลีน บริจาคเจลล้างมือ มูลค่า 40 ล้านบาทให้กับโรงเรียนทั่วประเทศในสังกัดของสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านแคมเปญ 'วาสลีนชวนคนไทยร่วมดูแลมือของเรา'
  • โอโม ก่อตั้งโครงการ OMO Bright Future Academy โดยร่วมมือกับ 'ครูลูกกอล์ฟติวเตอร์ภาษาอังกฤษชื่อดัง เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและศักยภาพการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับคนรุ่นใหม่ 
  • ซันซิล จัดการแข่งขัน Sunsilk Possibilities Fund เพื่อให้ผู้หญิงได้มีโอกาสตามหาอาชีพในฝันและเสนอแผนธุรกิจของตนเอง ชิงเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท เพื่อนำไปก่อตั้งธุรกิจตามที่หวัง
  • บรีส มีการปรับสูตรใหม่แทนที่สารเคมีด้วยเอนไซม์จากธรรมชาติและลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล เพื่อมุ่งหน้าสู่อนาคตที่สะอาด

ดังนั้น 'ทุกการกิน ทุกการแปรง ทุกการซัก ทุกการสระ ทุกการถู' ของผู้บริโภค คือ ทุกการสร้างโลกร่วมกัน!

 

'ทำดี' รับมือโควิด-19

 

ในช่วงการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบสามครั้งนี้ โรเบิร์ต กล่าวถึง 'การทำดี' ของแบรนด์ว่า

"ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและคนไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยได้บริจาคชุดตรวจโควิด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนามโควิด และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส พร้อมทั้งร่วมมือกับสภาหอการค้าไทย เพื่อสนับสนุนโครงการวัคซีนแห่งชาติ โดยช่วยให้ความรู้คนไทยเกี่ยวกับความสำคัญของสุขอนามัยและการฉีดวัคซีน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย ในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ รวมทั้งมุ่งให้ความช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด สนับสนุนการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าและปกป้องชุมชน"

 

 

นอกจากนี้ การเปิดตัวแคมเปญ 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' ในครั้งนี้ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์ ที่ร้านค้าโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส บิ๊กซี วัตสัน และเซเว่น-อีเลฟเว่น รวมถึงร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคลดค่าครองชีพในช่วงสถานการณ์โควิดนี้

 

“ในขณะที่วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของผู้คน ความมุ่งมั่นระยะยาวของยูนิลีเวอร์ที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราจะยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคระบาด และช่วยคนไทยให้ผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน รวมถึงปกป้องดูแลคนของเรา คนที่เรารัก และผู้บริโภคจากการแพร่ระบาดใหญ่นี้” โรเบิร์ตกล่าว

 

แม้ว่าโลกใบนี้ จะมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องทำอีกมาก เพื่อทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ดีขึ้น และเดินหน้าสู่ความยั่งยืน

แต่ด้วยปณิธานของแบรนด์ทั้งหมดในเครือยูนิลีเวอร์ และความมุ่งมั่นพัฒนาด้านความยั่งยืน ก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ยูนิลีเวอร์ ไม่เคยหยุดทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยปกป้อง และทำให้โลกใบนี้ สังคม และผู้คนดีขึ้นในฐานะที่เป็น 'แบรนด์พลเมือง' ของโลก

  


เป้าหมายสู่ความยั่งยืนของยูนิลีเวอร์


 

ทศวรรษ 2020


  • ช่วยผู้คนนับพันล้านให้มีสุขภาพและความเป็นอยูที่ดีขึ้น ซึ่งนับแต่การประกาศแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ (Unilever Sustainable Living Plan: USLP) เมื่อ 8 ปีก่อน ยูนิลีเวอร์ก็ได้ช่วยผู้คนกว่า 600 ล้านคนให้สุขภาพและความเป็นอยูที่ดีขึ้น และการกระทำจากหลายๆ แบรนด์ของบริษัทฯ ก็ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมมาแล้ว อย่างการลดปัญหาของโรคติดเชื้อ โรคท้องร่วง  ปอดบวม ฯลฯ

     

ทศวรรษ 2030


  • มุ่งรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำ, ลดการใช้ และรีไซเคิล (Reuse, Reduce, Recycle) รวมทั้งการตั้งเป้าใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ในปี 2025 จากปัจจุบันที่ยูนิลีเวอร์ใช้พลังงานหมุนเวียนจากพืชผลทางการเกษตรแล้วมากกว่า 50%

     

[อ่าน 6,215]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไฮเออร์ ประเทศไทย ยิ้มรับปี 68 กวาดรายได้ปี 67 โต 11,000 ล้านบาท
เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรสร้าง มอบอภิมหาโปรโมชั่น ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็งสุดยิ่งใหญ่
ORI โชว์พอร์ต Joint Venture พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี - 119 โครงการ - 1.86 แสนล้านบาท
“จระเข้” ขานรับ “EASY E-Receipt ลดหย่อนภาษี” ช้อปสินค้าจระเข้ รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท
ตรุษจีนปีมะเส็ง เสริมพลังชีวิตยืนยาว สุขเบิกบานรับความมั่งคั่ง ที่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ไอคอนสยาม ทุ่มงบ 150 ล้าน ฉลอง 50 ปีสายไทย-จีน จัดตรุษจีนปีมะเส็งยิ่งใหญ่
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved