ยูนิลีเวอร์ตอกย้ำความเป็น 'แบรนด์พลเมือง' (Brand Citizen) ของโลกใบนี้ ด้วยความมุ่งมั่นจะสร้าง 'โลกที่ดีกว่า' ในทุกๆ วันของการทำงานอันเป็นเป้าหมายและพันธกิจขององค์กรมากว่าศตวรรษแล้ว
พันธกิจระดับโลกของยูนิลีเวอร์ คือ 'การทำดี'
'Doing Well by Doing Good’ คือ 'ความเชื่อ' ขององค์กรนี้ที่มุ่ง 'ทำอะไรดีๆ' ด้วย 'การทำดี'
เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ สนับสนุนทั้งคู่ค้าและพนักงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม และช่วยชุมชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น
'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ'
ล่าสุด ยูนิลีเวอร์ ส่งแคมเปญระดับโลก 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' (Every U Does Good: EUDG) เพื่อปลุกจิตสำนึกของผู้บริโภคต่อโครงการรณรงค์เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ และส่งเสริมการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับประเทศไทยในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ด้วยว่า สินค้ายูนิลีเวอร์นั้น เป็น 'ของต้องมี' ของทุกครัวเรือนมาช้านาน ว่ากันว่า อย่างน้อยแต่ละบ้านต้องมีผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์อย่างน้อย 3 ชิ้นขึ้นไป ฉะนั้น 'ทุกครั้งของการถู ทุกครั้งของการแปรง และทุกครั้งของการทานหรือดื่ม' กับผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งของยูนิลีเวอร์ นั่นคือการมีส่วนร่วมเพื่อทำความดีของผู้บริโภคให้กับโลกใบนี้ ดีขึ้น น่าอยู่มากขึ้น และสนับสนุนให้ประชาคมโลกมีความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
โรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า
“ยูนิลีเวอร์ มีความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้ ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ เราเชื่อว่า เราสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและทำให้โลกดีขึ้น ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติใดก็ตาม เราต้องการตอบแทนสังคม และผู้บริโภค
เราเชื่อว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างรวมกัน ย่อมก่อให้เกิดผลดีอย่างมาก และด้วยการทำงานหนักเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนและทุกองค์ประกอบของธุรกิจได้มีส่วนร่วม ไม่ว่าจะน้อย หรือมากก็ตาม แต่ต่างก็มุ่งสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม เราสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่า ในทุกๆ U พวกเราพยายามอย่างมาก ไม่เพียงแต่ทำสิ่งดีๆ ในตอนนี้ แต่จะทำสิ่งดีๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งในอนาคต”
'ทำดี' ที่ 'ใครๆ ก็มีส่วนร่วมได้'
'Doing Well by Doing Good’ ของยูนิลีเวอร์จับต้องได้ง่ายมาก และทำให้ผู้บริโภคก็มีส่วนร่วมสรรค์สร้างโลกให้น่าอยู่และมีความยั่งยืน อย่างในประเทศไทย ยูนิลีเวอร์เองก็มองปัญหาในภาพใหญ่ และยังเดินหน้าที่จะแก้ไขปัญหาสังคม ลดขยะพลาสติก รวมทั้งต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างไม่หยุดยั้ง และได้ประกาศเป้าหมายนับแต่ปี 2562 ที่ต้องการลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้ หรือย่อยสลายได้ ให้ได้ 100% นอกจากนี้ ยังจะเก็บรวบรวมพลาสติกและแปรรูปให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป
"ยูนิลีเวอร์เป็นผู้นำในกลุ่มสินค้า FMCG ในไทยที่ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล หลังการบริโภค (Post-Consumer Recycled: PCR) มากถึง 4,000 ตัน ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์ของเรา เช่น ซันไลต์, คอมฟอร์ท, ซันซิล,โดฟ ฯลฯ ล้วนใช้ขวดบรรจุภัณฑ์ที่เป็น PCR ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทยและยังทำให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคัดแยกและจัดเก็บขยะพลาสติก เพื่อให้ขยะพลาสติกถูกนำมาหมุนเวียนใช้ในระบบ"
แต่แคมเปญ 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' มีบริบทมากกว่ามิติของการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีมิติในเชิงของสังคมด้วย
ทั้งนี้ ทุกๆ แบรนด์ของยูนิลีเวอร์ ยังคงมุ่งทำสิ่งดีๆ ต่อไป ด้วยแนวคิดของแบรนด์ หรือจัดกิจกรรมทำดีต่างๆ ตัวอย่างเช่น
ดังนั้น 'ทุกการกิน ทุกการแปรง ทุกการซัก ทุกการสระ ทุกการถู' ของผู้บริโภค คือ ทุกการสร้างโลกร่วมกัน!
'ทำดี' รับมือโควิด-19
ในช่วงการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบสามครั้งนี้ โรเบิร์ต กล่าวถึง 'การทำดี' ของแบรนด์ว่า
"ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มีบทบาทสำคัญเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและคนไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยได้บริจาคชุดตรวจโควิด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนามโควิด และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส พร้อมทั้งร่วมมือกับสภาหอการค้าไทย เพื่อสนับสนุนโครงการวัคซีนแห่งชาติ โดยช่วยให้ความรู้คนไทยเกี่ยวกับความสำคัญของสุขอนามัยและการฉีดวัคซีน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัย ในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ รวมทั้งมุ่งให้ความช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด สนับสนุนการทำงานของบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าและปกป้องชุมชน"
นอกจากนี้ การเปิดตัวแคมเปญ 'ทุกๆ U ทำสิ่งดีๆ' ในครั้งนี้ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์ ที่ร้านค้าโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส บิ๊กซี วัตสัน และเซเว่น-อีเลฟเว่น รวมถึงร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคลดค่าครองชีพในช่วงสถานการณ์โควิดนี้
“ในขณะที่วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของผู้คน ความมุ่งมั่นระยะยาวของยูนิลีเวอร์ที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราจะยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคระบาด และช่วยคนไทยให้ผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน รวมถึงปกป้องดูแลคนของเรา คนที่เรารัก และผู้บริโภคจากการแพร่ระบาดใหญ่นี้” โรเบิร์ตกล่าว
แม้ว่าโลกใบนี้ จะมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องทำอีกมาก เพื่อทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น ดีขึ้น และเดินหน้าสู่ความยั่งยืน
แต่ด้วยปณิธานของแบรนด์ทั้งหมดในเครือยูนิลีเวอร์ และความมุ่งมั่นพัฒนาด้านความยั่งยืน ก็ได้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ยูนิลีเวอร์ ไม่เคยหยุดทำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยปกป้อง และทำให้โลกใบนี้ สังคม และผู้คนดีขึ้นในฐานะที่เป็น 'แบรนด์พลเมือง' ของโลก
เป้าหมายสู่ความยั่งยืนของยูนิลีเวอร์
ทศวรรษ 2020
ทศวรรษ 2030