เอชพี ยึดกลยุทธ์ธุรกิจที่สร้างความยั่งยืน( Sustainable Impact) ได้ประกาศความมุ่งมั่นในการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลให้เข้าถึง 150 ล้านคนภายในปี 2573 ด้วยการเปิดตัวโปรแกรม HP PATH (Partnership and Technology for Humanity) ที่จะเข้าไปทำงานร่วมมือกับท้องถิ่นในชุมชนด้อยโอกาสทั่วโลก โดยมุ่งเน้นในด้านการศึกษา สาธารณสุข และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เอชพี ได้เผยแพร่รายงาน HP Sustainable Impact Report ฉบับที่ 20 ที่ย้ำถึงความคืบหน้าการดำเนินการที่ครอบคลุมสามเสาหลัก คือ ด้านผลกระทบของสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Action), สิทธิมนุษยชน ( Human Rights) และความเท่าเทียมทางดิจิทัล ( Digital Equity) ทั้งนี้เป็นไปตามแผนปฏิบัติเชิงรุกล่าสุดของบริษัทด้านการป้องกันสภาพอากาศและการขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านความหลากหลาย ความเสมอภาคและเคารพสิทธิมนุษยชน
มร. ลิม ชุน เต็ก กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า “กลยุทธ์ที่ยึดการสร้างความยั่งยืนของเราช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชน ในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการเติบโต ทั่วทั้งธุรกิจของเอชพี การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความก้าวไกลเป็นหนึ่งในจุดแข็งสูงสุดของเอชพีมาโดยตลอด และเรายังดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้บรรลุเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้”
“ในขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงเกือบทุกๆ ด้านของชีวิต จึงมีความเสี่ยงที่ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จะถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังและพวกเราไม่อาจจะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เอชพีจะดำเนินทุกวิถีทางที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลที่กีดขวางทางจนทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงความเท่าเทียมทางการศึกษา อาชีพการงาน และการดูแลรักษาสุขภาพซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการจะได้รับ” ลิม ชุน เต็ก กล่าวเพิ่ม
สร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัล
การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไม่ได้ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล แต่เป็นตัวเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้น โดยความไม่เท่าเทียมกันทางดิจิทัลอยู่ในระดับสูงสุดและยังจะขยายอย่างต่อเนื่องหากเราไม่ร่วมกันหาทางออก จากข้อมูลของยูนิเซฟ พบว่าเด็กวัยเรียน 1 ใน 3 ของโลก หรือนักเรียนจำนวน 463 ล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ทางไกลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งนอกเหนือจากด้านการศึกษาแล้ว ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลที่กำลังเพิ่มขึ้นกลายเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่สมัยใหม่และโอกาสในการเข้าหางาน นอกจากนี้ ยังสร้างความเสียหายทางกิจกรรมเศรษฐกิจ ตามข้อมูลของ Deloitte แสดงให้เห็นว่าประเทศสหรัฐอเมริกาสูญเสียมากกว่า 130 ล้านดอลลาร์ต่อวัน เนื่องจากผู้คนไม่สามารถเข้าถึงออนไลน์ได้
เอชพี เชื่อว่าความเท่าเทียมทางดิจิทัลเป็นสิทธิมนุษยชน จึงได้ลงทุนใน HP LIFE ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมทักษะด้านธุรกิจและไอทีแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่าน HP Foundation และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น Girl Rising, MIT Solve และ NABU
จากความพยายามเหล่านี้ เอชพีมุ่งมั่นพัฒนา เปิดตัว และบริหารจัดการกิจกรรม โซลูชันและการบริการ หลากหลายเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัล สู่ชุมชนด้อยโอกาสให้ได้ 150 ล้านคนภายในปี 2573
เอชพี เชื่อว่าความเท่าเทียมทางดิจิทัลที่แท้จริงต้ององค์ประกอบ 4 ด้าน คือ ฮาร์ดแวร์ (เช่น แล็ปท็อปหรือ พริ้นเตอร์), การเชื่อมต่อ (เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต), คุณภาพของเนื้อหา (เช่น สื่อการเรียนรู้) และความรู้ด้านดิจิทัล (เช่น ทักษะในการใช้เทคโนโลยี) งานของเอชพีจะเน้นไปยังชุมชน 4 กลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลมากที่สุดได้แก่
แนวนโยบายของการดำเนินการนี้ สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติที่เชื่อมโยงถึงความต้องการทรัพยากรในด้านสาธารณสุข การศึกษา และโอกาสทางเศรษฐกิจ
ขอแนะนำ HP PATH (Partnership and Technology for Humanity)
โครงการ Partnership and Technology for Humanity ของเอชพี จะปูทางสู่ความเท่าเทียมทางดิจิทัลในชุมชนด้อยโอกาสทั่วโลกผ่านการสร้างพันธมิตร ความร่วมมือ การปฏิบัติ การสร้างนวัตกรรม และการสื่อสารโดยตรงกับผู้นำในท้องถิ่น
ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ PATH จะเน้นการมีส่วนร่วม ถกเถียง รับฟัง และเรียนรู้จากชุมชนทั่วโลกเพื่อสร้างความเข้าใจต้นตอของปัญหาให้ดียิ่งขึ้น ศึกษาทรัพยากรที่มีอยู่ และสิ่งที่ต้องการการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน สิ่งเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อเอชพี ในการพัฒนาและปรับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ การสรรหาพันธมิตรและโซลูชันที่จะเร่งขีดศักยภาพให้เกิดการเปลี่ยนแปลงควบคู่กันไป เอชพีจะมีกองทุนสำหรับจัดหาอุปกรณ์และโซลูชันที่ตอบโจทย์ปัญหา
รายงานการสร้างความอย่างยั่งยืนประจำปี 2563
HP Sustainable Impact เป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยให้บริษัทกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่สร้างความยั่งยืนและยุติธรรมที่สุดของโลก อันเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงความยั่งยืนของโลกและสังคม และยังเป็นปัจจัยสำคัญมากขึ้นต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่ช่วยเอชพี สามารถมียอดขายมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 เป็นปีที่สองติดต่อกัน
เอชพี ยังคงยึดมั่นและมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบและความโปร่งใสเปิดเผยตรงตามนโยบายที่ได้ปรากฏในรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ฉบับแรกในปี 2544 สำหรับรายงาน HP Sustainable Impact ประจำปีนี้ บริษัทได้สรุปความคืบหน้าที่ได้ดำเนินการในปี 2020 ดังด้านล่างนี้ และสามารถดูรายงานฉบับเต็มได้ที่ลิงก์นี่
การดำเนินการด้านสภาพอากาศ:
สิทธิมนุษยชน:
ความเท่าเทียมทางดิจิทัลและความช่วยเหลือชุมชนระหว่างโควิด-19:
เปิดตัว Sustainable Bond Framework
เอชพียังได้ประกาศเปิดตัว Sustainable Bond Framework เพื่อสนับสนุนการเผยแพร่และแนะนำการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เชื่อว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายอนาคตที่ยั่งยืนและยุติธรรมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในระยะเริ่มต้นของโครงการ เอชพีได้ออกตราสารหนี้ระยะสั้นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก่อหนี้รวมมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ที่จะนำมาใช้เพื่อให้นักลงทุนที่มาร่วมกับเอชพีในการแก้ปัญหาสำคัญทางเศรษฐกิจ สังคม และการสร้างความยั่งยืนภายใต้โครงการนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่นี่
เอชพีตระหนักดีว่าการบรรลุเป้าหมายในปี 2030 ต้องได้รับการสนับสนุนจากพนักงาน ซัพพลายเออร์ ผู้ค้า และพันธมิตร เอชพีจึงได้ระดมเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อขยายกลยุทธ์เพื่อธุรกิจยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถให้พนักงานของเอชพีในการกำหนดเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนในส่วนของตนเอง และออกแบบโปรแกรมพันธมิตร HP Amplify Impact™ ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อช่วยคู่ค้าให้สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีความหมายในอุตสาหกรรมไอทีทั่วโลก
ไฮไลท์ข่าว: รายงาน HP Sustainable Impact Report ปี 2563