ซีอาร์จี ถอดบทเรียนฝ่าวิกฤต ระดมทุกแบรนด์ในเครือเข้าโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้กระตุ้นยอดครึ่งปีหลัง
30 Jun 2021

 

จากประกาศราชกิจจานุเบกษา ห้ามการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านอาหารทั้งหมดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยให้เปิดดำเนินการเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น มีผลตั้งแต่ 28 มิ.. 64 ซีอาร์จี จึงจัดกลยุทธ์เร่งการขายทั้งในช่องทางเดลิเวอรี่และออนไลน์ มุ่งสร้างยอดขายฝ่าวิกฤต

 

 

ณัฐ วงศ์พานิช  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (Central Restaurants Group) หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการประกาศจากภาครัฐที่ห้ามการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในร้าน ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล กระทบต่อธุรกิจร้านอาหารมากกว่าทุกครั้งที่ผ่าน มา เพราะเป็นการกระทบต่อเนื่องในระยะเวลานาน เนื่องด้วยช่องทางการรับประทานในร้าน (Dine in) เป็นช่องทางรายได้หลัก ของธุรกิจร้านอาหารทั้งรายเล็ก ไปจนถึงรายใหญ่ และด้วยครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ให้ปิดบริการที่หน้าร้าน และร้านอาหารของ ซีอาร์จี กว่า 50% อยู่ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล

จึงพร้อมปรับตัวรับสถานการณ์ มุ่งดำเนินแผนงานที่เคยวางไว้ โดยปรับให้มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นในด้านหลักๆ คือ ด้านการบริหารจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ให้เหมาะสม และด้านการเพิ่มยอดขายเพื่อมาชดเชยรายได้ในส่วนที่หายไป จึงเร่งหาช่องทางอื่นที่เพิ่มรายได้ ทั้งในช่องทางเดลิเวอรี่ และออนไลน์ อาทิ เน้นช่องทางการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซและระบบแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์, พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการเดลิเวอรี่ อาทิ เมนูแกร็บ แอนด์ โก (Grab & Go), เทคโฮม (Take home) และสินค้าพร้อมทาน (RTE product) เพื่อสะดวกต่อการรับประทานอาหารที่บ้าน อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตร Aggregator ชั้นนำทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างวาไรตี้ด้านเมนู และโปรโมชั่นต่าง ช่วยกระตุ้นยอดขาย

 

 

ขณะเดียวกันก็ขานรับนโยบายรัฐ ระดมพลังแบรนด์ดังในเครือทุกแบรนด์เข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 .. – 31 .. 2564 เพียงใช้ G-Wallet ชำระค่าอาหาร และเครื่องดื่ม (เฉพาะทานที่ร้านหรือซื้อกลับบ้าน) ที่ร้านอาหารในเครือซีอาร์จี ทั้ง 17 แบรนด์ จำนวนกว่า 1,100 สาขา ทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาในฟู้ดคอร์ท) นอกจากนี้ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มความคุ้มค่ากระตุ้นการใช้จ่าย พร้อมรับเงินคืน E-Voucher สูงสุด 7,000 บาท และยังสามารถนำ E-Voucher กลับมาใช้จ่ายที่ร้านได้อีกต่อ ตั้งแต่วันที่ 7 .. – 31 .. 2564

สำหรับในด้านพนักงาน ยืนยันพร้อมดูแลพนักงานของเราทั้งหมดให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องรายได้ตามความเหมาะสม, การให้พนักงานส่วนสำนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home), การจัดสรรวัคซีนแก่พนักงาน รวมทั้งแผนประกันภัยโควิด-19 ในกรณีพบติดเชื้อและคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่พนักงานทุกคน 

 

 

อีกทั้งยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยร้านอาหารในเครือซีอาร์จี 13 แบรนด์ 999 สาขา ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA : Safety and Health Administration ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และยังคงเข้มงวดในเรื่องของมาตรการความปลอดภัย ให้ไกลห่างโรคโควิด-19 ด้วยแผน 3C คุมเข้มที่ร้านอาหารในเครือซีอาร์จีทุกสาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย 1) Cleanliness Procedure คัดกรองอย่างเข้มงวด รักษาความสะอาดทุกขั้นตอน 2) Consideration of Social Distancing Measures เน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และ 3) Contactless Service การให้บริการแบบไร้สัมผัส เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน

 

 

การแพร่ระบาดของโควิด-19 คงจะมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้น สิ่งสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ได้หลักๆ คือวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายเพื่อรับการกลายพันธุ์ของเชื้อ แต่อย่างไรก็ตามเราทุกคนคงต้องอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ให้ได้ รวมทั้งขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทุกท่านที่ต่างก็โดนพิษโควิด-19 ซึ่งต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด สำหรับซีอาร์จี เราก็นำประสบการณ์จากผลกระทบที่ได้รับ มาเรียนรู้จนได้เป็นบทเรียนสำคัญ คือ 1) การรักษากระแสเงินสดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายและต้นทุนต่างๆ ทั้งค่าแรง ค่าเช่า รวมถึงควบคุม waste ให้ดี 2) คิดหรือพัฒนาโมเดลใหม่ๆ โดยการต่อยอดจากสิ่งที่มี เพื่อรองรับข้อจำกัดต่างๆ  และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป 3) การนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ อย่างในแง่ธุรกิจร้านอาหารก็มี เดลิเวอรี่ ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือหลักที่จะสามารถช่วยสร้างยอดขายได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะสามารถผ่านพ้นช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ได้โดยเร็วคุณณัฐ กล่าวในตอนท้าย

[อ่าน 1,665]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Valentine’s Item! สมูทอีคอลแลปส์หลิง-ออม เปิดตัว “Smooth E x Ling-Orm Exclusive Valentine’s Box Set”
LPN มุ่งสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality
SCG ร่วมกับสภาอุตฯ ชวนผู้ประกอบการสัมผัสนวัตกรรม Low Carbon และเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม 4.0
ไฮเออร์ ประเทศไทย ยิ้มรับปี 68 กวาดรายได้ปี 67 โต 11,000 ล้านบาท
เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรสร้าง มอบอภิมหาโปรโมชั่น ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็งสุดยิ่งใหญ่
ORI โชว์พอร์ต Joint Venture พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี - 119 โครงการ - 1.86 แสนล้านบาท
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved