แม้ภาพรวมสินเชื่อบุคคลของไทยในปี 2558 ที่ผ่านมา จะมีการชะลอตัวไปบ้างตามสภาวะเศรษฐกิจ แต่ในส่วนของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เคทีซี’ ยังคงเติบโตน่าพอใจ โดยเฉพาะในส่วนของลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งมีเพียง 1% จาก 1.2% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558) นับว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์และยังต่ำกว่าอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 5.2% Bank 5% และ Non Bank 5.3%
สำหรับในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคลเติบโตขึ้น 3.3% มูลค่ารวมอยู่ที่ 322,000 ล้านบาท Bank ติดลบ -1.9% มูลค่า 156,000 ล้านบาท Non Bank เติบโตลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 8.9% มูลค่า 165,000 ล้านบาท และเคทีซีเติบโต 12.8% มูลค่า 18,684 ล้านบาท
สุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจสินเชื่อบุคคล ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ภาพรวมสินเชื่อบุคคลทั้งอุตสาหกรรมจะเติบโตไม่มาก แต่ทางเรามองว่า สินเชื่อบุคคลยังเป็นสินเชื่อที่ยังมีอนาคต เติบโตได้อีกนาน โดยทิศทางการตลาดสินเชื่อบุคคลของเคทีซีจากนี้ไป บริษัทฯ จะมุ่งเน้นทำการตลาดให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยเป้าหมายสูงสุดคือครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับต้นๆ เมื่อนึกถึงสินเชื่อบุคคล ขอให้นึกถึงเคทีซี”
ปัจจุบัน สัดส่วนลูกค้าของเคทีซี แบ่งเป็น ต่างจังหวัด 60% กรุงเทพฯ 40% โดยในช่วงหลังนี้ ทางเคทีซีได้ทำการรุกฐานลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็น 65% ด้วยจำนวนสมาชิกสินเชื่อบุคคลที่ยังคงขยายกว่า 747,343 บัญชี และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสที่ 2 นี้ เคทีซี จึงอัดงบประมาณเปิดเกมการตลาดด้วย 2 แคมเปญใหญ่ ‘Supersave 70%’ มอบส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 70% ให้สมาชิกสมัครใหม่ถึง 2 รอบบัญชี และกระตุ้นการใช้สินเชื่อพร้อมใช้ ‘เคทีซี พราว’ ด้วยแคมเปญ ‘แจกไม่ยั้ง กองทัพ iPhone 6S’ มอบ iPhone 6S รวมมูลค่า 1.59 ล้านบาท ตั้งเป้าธุรกิจสินเชื่อบุคคลเติบโตต่อเนื่องทั้งมูลค่าพอร์ตกว่า 15%
พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้จัดการอาวุโส – ธุรกิจสินเชื่อบุคคล ‘เคทีซี’ กล่าวว่า “เคทีซีได้ใช้ระบบ CRM (Customer Relations Management) เข้าไปประมวลความต้องการของสมาชิก เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประกอบการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดใน 2 รูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมการตลาดในวงกว้าง (Mass) ที่เหมาะกับคนส่วนใหญ่ และการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือ การมุ่งสร้างความพึงพอใจให้สมาชิก สร้างความผูกพันกับแบรนด์ในระยะยาวในรูปแบบของสิทธิประโยชน์ การจัดสัมมนาเวิร์คช็อปเสริมความรู้ด้านอาชีพ และการคัดกรองและบริหารจัดการคุณภาพลูกหนี้ที่มีประสิทธิผล ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและเป็นจุดแตกต่างที่ทำให้เคทีซี ต่างจากสถาบันการเงินรายอื่นๆ”
ในส่วนของปัญหาจำนวนหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นกว่า 80% ในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีผลกระทบกับกำลังซื้อของประชาชน สุดาพร ให้ความเห็นว่า “ทางรัฐบาลได้มีการออกมาแถลงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงในขณะนี้ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเป็นหนี้ครัวเรือนที่มีหลักประกันคือ ประการแรกมาจากสาเหตุปี 2554 ในช่วงน้ำท่วม ประชาชนกู้เงินมาทำบ้าน ส่วนปี 2555 นโยบายรถคันแรก ซึ่งมีหลักประกันคือรถยนต์ จำนวนหนี้ครัวเรือนที่สูงในขณะนี้จึงไม่น่าจะมีปัญหาต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เนื่องจากประชาชนมีบทเรียนมาหลายช่วง เช่น ช่วงน้ำท่วม หรือ ช่วงต้มยำกุ้ง อย่างลูกค้าของเคทีซีที่ผ่านมา พอเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าก็จะชะลอตัวนิดหน่อย แต่ก็มีวินัยในการจับจ่ายใช้สอย คือ จะใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย”
สำหรับปีนี้ เคทีซีตั้งเป้าสินเชื่อบุคคลเติบโต 15% ยอดลูกค้าใหม่สินเชื่อพราวอยู่ที่ 146,000 ราย เท่ากับปี 2558 ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถเพิ่มยอดลูกค้าใหม่ได้ 95% หรือประมาณ 137,000 ราย โดยปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ สิ้นปีคาดปิดที่ 21,100 ล้านบาท โต 15% จาก 12% ในปีที่ผ่านมา