นายซิ่ว จิน เกียด กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาค เอปสัน สิงคโปร์ กล่าวว่า “สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งใหม่นี้ประกอบด้วยโซลูชั่นเซนเตอร์ 2 แห่ง ที่จะทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อมให้แก่คู่ค้าและลูกค้าของเอปสันจากทั่วภูมิภาค ซึ่งล้วนแต่เป็นนวัตกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการพิมพ์ ด้านการฉายภาพ หุ่นยนต์แขนกล และ PaperLab ซึ่งเป็นเครื่องผลิตกระดาษด้วยกระบวนการแบบแห้งเครื่องแรกของโลก”
“การย้ายมาที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้มีนัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ข้อแรก เป็นการตอกย้ำว่าเอปสันยังคงมีความมั่นใจในประเทศสิงคโปร์ ในการเป็นศูนย์รวมธุรกิจของเอปสันสำหรับภูมิภาคนี้ ข้อสองคือการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอปสันที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานขององค์กรธุรกิจในภูมิภาคนี้ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ไม่เพียง จะช่วยเพิ่มผลิตผล แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนอีกด้วย และข้อสุดท้าย คือความพยายามจะทำให้ลูกค้าของเอปสันได้พบกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นต่อระบบธุรกิจปัจจุบัน การเลือกเอปสันจึงเท่ากับการเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้กับธุรกิจ ที่ทั้งเพิ่มผลผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปในเวลาเดียวกัน”
นายซิ่ว ยังกล่าวถึงผลกระทบอย่างรุนแรงทางสังคมจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน และความร่วมมือระหว่างกลุ่มบิรษัทเอปสันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลสิงคโปร์ รวมถึงหน่วยงาน NGO ในภูมิภาคนี้ เพื่อรณรงค์เรื่องการสร้างความยั่งยืนและสร้างการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจ โดยยกตัวอย่างของความร่วมมือล่าสุดกับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิค ในการยกระดับความตื่นตัวต่อปรากฏการณ์การละลายของชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost) ที่ขั้วโลกเหนือ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะส่งผลร้ายกับทั่วโลก ดังนั้นการเลือกใช้เทคโนโลยีที่สร้างความยั่งยืน จึงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมได้
“เอปสัน ได้พยายามสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และกระตุ้นภาคธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเรื่องการดำเนินงานอย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด กับเอปสันในทุกประเทศ ในการสร้างสังคมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน”
อีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดสำนักงานใหม่ครั้งนี้ก็คือเครื่อง PaperLab ที่ตั้งอยู่ในโซลูชั่นเซนเตอร์ส่วนองค์กรธุรกิจ ซึ่ง PaperLab เป็นเครื่องผลิตกระดาษขึ้นมาใหม่จากกระดาษที่ใช้แล้วในสำนักงาน ที่ใช้เทคโนโลยี Dry Fiber ของเอปสัน ไม่มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต ต่างจากการรีไซเคิลกระดาษแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ กระดาษที่ถูกผลิตขึ้นมาใหม่ยังสามารถกำหนดความหนา ขนาด และสีของกระดาษอีกด้วย โดยกระบวนการผลิตกระดาษใหม่นี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ การย่อยให้เป็นเส้นใย (Defibrating) การผสานเส้นใย (Binding) และการขึ้นรูปกระดาษ (Forming) ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญในกระดาษเก่าจะถูกย่อยสลายอย่างสมบูรณ์แบบ PaperLab มีแผนเริ่มจำหน่ายภายในปีนี้โดยเริ่มจากประเทศสิงค์โปร์ และจะทยอยเปิดตัวในประเทศไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ โซลูชั่นเซนเตอร์ทั้งสองศูนย์ยังได้รวมเอาสินค้า B2B ครบทั้งไลน์ของเอปสันไว้ ทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท สแกนเนอร์ โซลูชั่นเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ โปรเจคเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับการพิมพ์ฉลากอุตสาหกรรม ภาพถ่าย ป้ายโฆษณา และสิ่งทอ
“ความยั่งยืนเป็นประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีจำนวนธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เราจะเดินหน้าผลักดันให้ความยั่งยืนเติบโตขึ้นในสังคมธุรกิจของประเทศไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นทั้งหลายของเรา” ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริม
การย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งใหม่ และการเปิดตัว PaperLabในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถให้กับเอปสัน ในการให้ความรู้กับคู่ค้าและลูกค้าเกี่ยวกับโซลูชั่นที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นหนทางสู่การสร้างชุมชนที่เป็นมิตรและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคนี้